จับตา 4 สัญญาณ ตลาดทุน ‘ฟองสบู่’ นักลงทุนแห่เก็งกำไร ‘ตลาดหุ้น-คริปโท’
สำนักข่าวเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นสหรัฐที่กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมกับการซื้อขายเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณก่อนที่ตลาดจะเกิด “ฟองสบู่” ที่สำคัญที่นักลงทุนกำลังจับตามอง 4 เรื่องด้วยกัน
หุ้นเก็งกำไรกำลังมาแรง
หลังจากความวุ่นวายเรื่องภาษีเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นดิ่งลงก่อนที่จะแห่กันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นมีม (meme stocks), คริปโทเคอร์เรนซี และหุ้นของบริษัทขนาดเล็ก
ราคาหุ้นหลายตัวฟื้นตัวอย่างโดดเด่นทั้ง ราคาหุ้น Opendoor Technologies บริษัทอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์พุ่งขึ้นถึง 377% หรือหุ้น GoPro และ Krispy Kreme ที่ปรับตัวขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น
การกลับมาของการเดิมพันแบบ "YOLO" (You Only Live Once) ชวนให้นึกถึงช่วงที่ตลาดคึกคักสุด ๆ ในปี 2021 ที่นักเทรดออนไลน์เคยปั่นหุ้น GameStop ร้านค้าปลีกในห้างที่กำลังซบเซา ให้มีมูลค่าสูงถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเวลาสั้น ๆ ก่อนที่ตลาดกระทิงจะสิ้นสุดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น
หุ้นของกองทุน ARK Innovation ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่รวมบริษัทเก็งกำไรจำนวนมากแต่ยังขาดทุนสุทธิ ปรับขึ้นกว่า 36% ตั้งแต่ต้นปี
อย่างไรก็ดี แคลลี ค็อกซ์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดจาก Ritholtz Wealth Management กล่าวว่าการที่ตลาดมีการเก็งกำไรเพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพตลาดเสียทีเดียว แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มมีปัญหาและมีสัญญาณไม่ดี นั่นแหละคือสิ่งที่คุณควรเริ่มกังวล แม้ว่านักลงทุนจะยังคงกระหายการเก็งกำไร”
คริปโทพุ่งแรง บริษัทแห่ถือ Bitcoin หวังเก็งกำไร
ราคา Ethereum และ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับแรงหนุนจากนโยบายสนับสนุนคริปโทเคอร์เรนซีของรัฐบาลทรัมป์ และการยอมรับที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันการเงินกระแสหลัก
นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนรายใหม่ที่เข้ามาดันราคาขึ้นอีก นั่นคือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่กักตุน Bitcoin ไว้
หนึ่งในนั้นคือ Trump Media & Technology Group ซึ่งประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าได้สะสม Bitcoin และหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ไว้ประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการกระทำเช่นนี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงในตลาดคริปโท และทำให้เกิดการเทขายที่รุนแรงขึ้นได้ แต่คำเตือนเหล่านั้นก็ไม่ได้ยับยั้งบริษัทประมาณหกสิบแห่งจากการดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกัน
ราคาหุ้นแพงเกินไปแล้ว!
หลังจากที่หุ้นกลับมาสู่ระดับก่อนเดือนเม.ย. การฟื้นตัวของตลาดก็กระจายตัวไปมากกว่าแค่หุ้นกลุ่ม Magnificent Seven และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ตอนนี้เริ่มมีหุ้นจากกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ เข้ามามีบทบาทด้วย เช่น บริษัทการเงิน อุตสาหกรรม และบริการสื่อสาร ดัชนี KBW Nasdaq Bank พุ่งขึ้นกว่า 7% ในเดือนที่ผ่านมา
โดยทั่วไปแล้ว นักวิเคราะห์มองว่า การฟื้นตัวของตลาดที่กระจายตัวเช่นนี้เป็นสัญญาณที่ดีของตลาดกระทิงที่ยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม มูลค่าหุ้นตอนนี้ถือว่าสูงเกินไป โดยค่าพรีเมียมความเสี่ยงของหุ้น (Equity Risk Premium) ซึ่งวัดจากส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนจากกำไรที่คาดการณ์ของ S&P 500 กับผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐอายุ 10 ปี เข้าใกล้ศูนย์ นั่นหมายความว่า ผลตอบแทนพิเศษที่ควรได้จากการถือหุ้นเมื่อเทียบกับพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำกว่านั้นแทบจะหายไปแล้ว ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อสุขภาพของตลาด
เศรษฐกิจสหรัฐ แข็งแกร่งท่ามกลางสัญญาณที่ต้องจับตา
แม้จะมีความกังวลในช่วงแรกว่ามาตรการภาษีอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นและฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแสดงความยืดหยุ่นและเดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความแข็งแกร่งนี้ ยังมีสัญญาณบางอย่างที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
หนึ่งในสัญญาณที่น่าสนใจคือ “เงินเฟ้อ” ในเดือนมิ.ย. ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการภาษีที่เริ่มส่งผลกระทบต่อราคาผู้บริโภค นอกจากนี้ ชุดดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจชั้นนำบางตัวยังบ่งชี้ถึง การเติบโตที่ชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปี
กระนั้น การเพิ่มขึ้นของราคาผู้บริโภคก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก และสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกังวลมากที่สุดคือ “การชะลอตัวอย่างรุนแรงในตลาดแรงงาน” ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นจริง หากตลาดแรงงานเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง อาจส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคหยุดชะงัก และฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง
ปัจจุบัน มีสัญญาณบางอย่างที่แสดงถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงาน เช่น การจ้างงานในภาคเอกชนที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบแปดเดือน และ การจ้างงานใหม่ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึง บัณฑิตจบใหม่ที่กำลังประสบปัญหาในการหางาน
ค็อกซ์ให้ความเห็นว่า "ในช่วงที่ตลาดงานกำลังอ่อนแอลงอย่างชัดเจน เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่เรายังเห็นการมองโลกในแง่ดีในตลาดการเงินมากขนาดนี้ ซึ่งเมื่อตลาดงานเริ่มชะลอตัว มันจะไม่ฟื้นตัวได้ง่าย ๆ"