‘แอมมี่’ โต้กลับ ‘ซ้อก้าด’ แจงปมรีวิวสินค้าฟรี ลั่นรอบนี้รู้สึกเกินขอบเขต
จากกรณี "แอมมี่ กิตติยา" บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังเจ้าของช่อง"amy kitiya" เผยถูกแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง บรีฟงานละเอียด แต่ปรากฏว่าไร้ค่าจ้าง แถมจะมาขอเอารูปไปใช้อีก โดยเธอมองว่าใกล้เคียงกับการจ้างงานมากกว่าการให้สินค้าทดลองทั่วไป และเสนอว่าหากต้องการข้อมูลจริง ควรเปิดรับอาสาสมัครจะเหมาะสมกว่า
ต่อมา“ซ้อก้าด” CEO แบรนด์ "Love Potion" ได้ออกมาชี้แจงว่าสินค้ายังไม่เปิดตัว แต่เป็นเพียงตัวทดลอง และแบรนด์แจกเทสเตอร์ให้หลายกลุ่ม ไม่จำกัดแค่บล็อกเกอร์ พร้อมขอโทษหากเกิดความเข้าใจผิด และยืนยันยังไม่มีการส่งของหรือข้อสรุปใดๆ ย้ำว่าแบรนด์พร้อมรับฟังและพัฒนา ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
อ่านข่าวต่อ : ‘แอมมี่’ ตอบเมนต์ ‘ซ้อก้าด’ แล้ว หลังแจงมุมบริษัทปมบรีฟงานแน่นแต่ไร้ค่าตัวอ่านข่าวต่อ : สรุปดราม่า! ‘แอมมี่’ ถูกบรีฟงานแต่ไร้ค่าจ้าง ก่อน ‘ซ้อก้าด’ โพสต์ขอโทษอ่านข่าวต่อ : ‘ซ้อก้าด’เคลียร์ประเด็นเปิดแชตโต้ ‘แอมมี่’ ปมดราม่าข้อมูลไม่ตรงกับสิ่งที่โพสต์
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “แอมมี่ กิตติยา” บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง ได้ออกมาโต้กลับหลัง “ซ้อก้าด” CEO แบรนด์ "Love Potion" ลงในแฟนเพจ "Amy Kitiya" หลัง "ซ้อก้าด" ได้ไลฟ์ชี้แจงกรณีส่งบรีฟรีวิวสินค้าแบบไม่มีค่าตอบแทน พร้อมอธิบายว่า จะขออนุญาตมาชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นตอนนี้ ทำไมถึงต้องโพสต์ ทั้งๆ ที่สามารถปฏิเสธได้ ปกติแล้วแบรนด์จะส่งของมา ซึ่งแอมโพสต์ให้ทั้งวิดีโอ และรูปหลายครั้งมากๆ แล้วเราก็ใจดีกับเขามาตลอด เพราะเราอยากสนับสนุนเขา แต่ว่ามารอบนี้เรารู้สึกว่า“เกินขอบเขต” ตรงที่ว่าเป็นตัวเทสเตอร์ 2 อย่าง เขาขอ "Feedback" และให้ถ่ายรูป 7-14 วัน ปกติแล้วแบรนด์ใหญ่ๆ หรือแบรนด์อื่น ที่เราส่งของให้หรือร่วมงานกัน เราก็จะลงในสิ่งที่เราชอบ อะไรที่เรารู้สึกว่าไม่อยากบอกต่อ "เราก็จะไม่ลง"
"ประเด็นที่ 2 ที่เราอยากพูด คือ ทางแบรนด์ที่เขาส่งสินค้าให้แอมทดลอง ซึ่งเขาบอกไม่มีบัดเจ็ต อันนี้เข้าใจ แต่เขาบอกว่ากรณีถ้าเราแพ้ เขาจะยินดีรับผิดชอบ ทุกคนเข้าใจความหมายของเราไหม คือ ถ้าเราต้องแพ้ก่อน เขาถึงจะมีเงินไปจ่ายค่าดูแลรักษาเรา ซึ่งแอมรู้สึกว่าไม่ค่อยแฟร์ และแอมรู้สึกว่า แอมไม่อยากเกิดกรณีแบบนี้ ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ตัวเล็ก-อินฟลูเอนเซอร์ตัวใหญ่"
"ประเด็นที่ 3 คือ ทำไมไม่ตอบทั้งที่ทางแบรนด์พยายามติดต่อ ปกติแอมก็อยู่ขอนแก่นนะ แต่แอมก็ต้องบินมากรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ ตอนที่น้องส่งข้อความมาทางอินสตาแกรม คือแอมต่อขนตาและลิฟต์ขนคิ้ว ด้วยความที่แอมพาน้องๆ แอดมินมาเที่ยวที่ประเทศจีน แอมก็เลยต้องแพ็กของ ปิดยอด ต้องสรุปทุกอย่างในบริษัทให้จบ หากทุกคนติดตามจะรู้ว่าแอมตอบน้องในเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งแอมไม่ได้เบี่ยงเบนประเด็น หรือไม่ตอบ หรืออะไรเลย ซึ่งทุกคนมีชีวิตส่วนตัว มีธุระที่ต้องทำ อันนี้คือเรื่องปกติ"
"ประเด็นที่ 4 คนที่คอมเมนต์เรื่องอื่น จริงๆ แอมไม่อยากให้เรื่องนี้ โยงเอาเรื่องนั้นมาพูด คนเอาเรื่องนี้มาพูด ที่มันไม่เกี่ยวกับประเด็นเลย แล้วก็ไม่อยากมีคอมเมนต์ลบๆ ด้วยนะคะ ขอคุยแค่ในขอบเขตเท่านั้น ส่วนประเด็นที่ 5 ที่คนพิมพ์มาบอกว่า ถ้าอินฟลูเอนเซอร์ท่านอื่นโดน ก็กางหลักฐานมาเลย หลังจากที่แอมได้โพสต์ไปเนอะ แอมไม่ได้โพสต์ว่าแบรนด์อะไร มีอินฟลูเอนเซอร์ทั้งตัวเล็ก-ใหญ่ ทักมาหลังบ้าน ว่าโดนอะไรกันบ้าง ซึ่งแอมขออนุญาตไม่หยิบคนอื่นมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้"
"แต่สิ่งหนึ่งที่แอมอยากจะพูดจากใจ ที่แอมเป็นบล็อกเกอร์มา 14 ปี คือ แอมสนับสนุนแบรนด์ไทยมาตลอด และแอมรู้สึกว่า หลายๆ แบรนด์ยักษ์ใหญ่ หรือแบรนด์ไทยหลายแบรนด์ เขาน่ารักมากๆ คือ แอมบอกก่อนนะ เขาส่งของมาให้เสร็จ เราก็รีวิวให้ เราก็รีวิวฟรีด้วย ไม่งั้นไม่อยู่โตมาถึงทุกวันนี้หรอกทุกคน แต่แอมรู้สึกว่าเกินขอบเขตไปนิดหนึ่ง แอมได้มีการสวอตช์รูปลิปสติกไป ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีบัดเจ็ต แอมใส่เครดิตอย่างชัดเจน แล้วมีตัวแทนของทางแบรนด์หลายคน เอารูปไปใช้ในไลฟ์แล้วลบเครดิตออก ซึ่งแอมไม่ได้แคปไว้ แอมต้องขอโทษ แต่แอมพิมพ์"ขอโทษนะคะ ถ้าจะเอารูปไปใช้ รบกวนไม่ลบเครดิตออกด้วยค่ะ" พิมพ์ไป 4-5 ครั้ง เขาก็ลบออก ซึ่งตรงนี้ไม่ค่อย "โอเค" ทุกคน"
"อีกเรื่องจริงๆ ถ้าแบรนด์จะร่วมงานอินฟลูเอนเซอร์ตัวเล็ก-ตัวใหญ่ ที่ไม่ใช่แอมหรือใครก็ได้ค่ะ อยากให้เขาให้เกียรติคนอื่นมากๆ เพราะว่าทุกคนมีต้นทุน แบรนด์มีต้นทุน เราก็มีต้นทุนเหมือนกัน ลองนึกถึงคนอื่นเยอะๆ นะคะ แล้วก็อยากให้คลิปวิดีโอนี้ เป็นคลิปวิดีโอสุดท้าย เพราะว่าเราก็ควรแยกย้ายไปทำอย่างอื่นนะคะทุกคน ตอนนี้แอมต้องขอรบแจงทุกคน ถ้าแอมมีการตอบช้า หรือว่าไม่ได้ตอบทุกคอมเมนต์ ต้องขออภัยนะคะ"
ขอบคุณข้อมูล : Amy Kitiya