เริ่มลงทุนไม่หลงทาง รวม 10 ศัพท์หุ้นพื้นฐานสำคัญ ที่มือใหม่ต้องรู้ ก่อนเริ่มลงทุนอย่างมีแผน
ในอดีต การลงทุนในหุ้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรา และต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงเงินทุนที่สูง ถึงจะลงทุนได้ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การลงทุนในหุ้นของยุคนี้ สามารถทำได้ง่ายมากขึ้น โดยศึกษา และเริ่มลงทุนได้เลย แม้จะมีกำลังทรัพย์ไม่มาก จนทำให้ “หุ้น” ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
Thairath Money ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ในหัวข้อ “ส่องแนวคิดเด็ก Gen Z มีล้านแรกจะลงทุนกับอะไร?” ณ สยามสแควร์ พบว่าคำตอบส่วนใหญ่แล้ว เด็ก Gen Z เลือกที่จะลงทุนกับหุ้นมากที่สุด โดยนักลงทุนที่อายุน้อยที่สุด อายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถการันตีได้ว่า “การลงทุนในหุ้น” เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่กำลังให้ความสนใจอยู่มาก และมีบางส่วนได้เริ่มหัดลงทุนแล้ว
อย่างไรก็ดี เชื่อว่า คนที่สนใจหรือเพิ่งเริ่มเข้ามาหัดลงทุนในหุ้น บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจคำศัพท์บางคำ ซึ่งคำศัพท์เหล่านี้ เรียกว่าเป็นพื้นฐานและมีความสำคัญมากในการลงทุน เพราะใช้บ่งบอกทั้งสถานะ ข้อมูลบริษัท และนำไปสู่การวิเคราะห์หุ้นรายตัว หรือสื่อสารกับนักลงทุนคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งถ้าเราไม่เข้าใจในคำศัพท์เหล่านี้ อาจจะทำให้เราตัดสินใจในการเลือกลงทุนในหุ้นผิดพลาดได้เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับคำศัพท์ต่าง ๆ อยากชวนทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า “หุ้น”ให้ลึกซึ้ง และเข้าใจมากขึ้น
โดย“หุ้น” นั้น คือสิ่งที่ไว้บอกสิทธิ และสัดส่วนความเป็นเจ้าของกิจการหรือบริษัทต่าง ๆ หมายความว่า ถ้าเรามีหุ้นหรือซื้อหุ้นที่อยู่ในกิจการหรือบริษัทนั้น ๆ ก็ถือว่าเราเป็นหนึ่งในเจ้าของกิจการหรือบริษัทนั้น ๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อหุ้นของบริษัท A เราก็จะเป็นหนึ่งในเจ้าของหรือเจ้าของร่วมของบริษัท A ตามสัดส่วน ขึ้นอยู่กับว่าเราลงทุนในบริษัท A มากน้อยขนาดไหน
10 ศัพท์หุ้นพื้นฐาน ที่มือใหม่เริ่มลงทุนต้องรู้
ส่วนคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เอาไว้ใช้ในการลงทุนในหุ้น มีอะไรบ้าง? Thairath Money รวบรวม 10 คำศัพท์พื้นฐาน ที่ผู้เริ่มเข้ามาลงทุนในหุ้นควรที่จะต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มลงทุน ดังนี้
1.Dividend Yield = อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
ซื้อหุ้นที่ราคานี้ แล้วจะได้ปันผลกี่ % ให้ดูจากตรงนี้
2.EPS (Earnings Per Share) = กำไรสุทธิต่อหุ้น
บริษัทมีกำไรทั้งหมดเท่าไหร่ แล้วนำมาเฉลี่ยให้หุ้นทั้งหมด เพื่อดูว่า 1 หุ้นได้กำไรกี่บาท
3.P/E (Price to Earnings Ratio) = อัตราส่วนวัดมูลค่าหุ้น ดูว่าถูกหรือแพง เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม
4.Market Cap (Market Capitalization) = มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัท หรือมูลค่าบริษัท ใช้ดูว่าบริษัทที่เรากำลังจะซื้อหุ้นนี้ใหญ่แค่ไหน
5.XD (Exclude Dividend) = "ไม่ได้สิทธิ" รับเงินปันผล
นักลงทุนต้องซื้อก่อนวันที่บริษัทจดทะเบียนประกาศจ่ายเงินปันผล และขึ้นเครื่องหมาย XD ถึงจะได้ปันผล
6.D/E (Debt to Equity Ratio) = อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
ตัวเลขประเมิน ว่าบริษัทกู้เงินมากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับเงินทุนของบริษัท บ่งบอกฐานะทางการเงิน
7.ATO (At the open) = คำสั่งซื้อหรือขายที่ราคาเปิดตลาด
คือคำสั่งซื้อ-ขายตอนเปิดตลาด ได้ราคาตอนเปิดตลาดเลย ไม่ต้องเลือกเอง
8.ATC (At the close) = คำสั่งซื้อหรือขายที่ราคาปิดตลาด
คือคำสั่งซื้อ-ขายตอนปิดตลาด ได้ราคาตอนปิดตลาดเลย ไม่ต้องเลือกเอง
9.BID = ราคาเสนอซื้อ
ราคาที่มีนักลงทุนยื่นเสนอซื้อหุ้นในราคานั้น ๆ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
10.OFFER = ราคาเสนอขาย
ราคาที่มีคนยื่นเสนอขายหุ้นในราคาน้ัน ๆ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม คำศัพท์ที่เอาไว้ใช้ในการลงทุนในหุ้นยังมีอีกมากมาย เราควรที่จะต้องศึกษา และทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์เหล่านี้ ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรก่อนเริ่มลงทุน และที่สำคัญ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษา และตัดสินใจให้ดีก่อนเริ่มลงทุน
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath