'ภูมิธรรม'เพิกถอนโฉนดเขากระโดงสั่งปลดอธิบดีกรมที่ดินทันที
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง และมีมติชี้ขาดว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยได้สั่งให้เพิกถอนโฉนดและปลดอธิบดีกรมที่ดินทันที
ผลการสอบสวนระบุชัดเจนว่าคำสั่งเดิมของอธิบดีกรมที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจมีการดำเนินคดีกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องในขณะนั้นด้วย
นายภูมิธรรมแถลงเรื่องนี้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา และจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาย้ายอธิบดีกรมที่ดินในสัปดาห์หน้า เมื่อได้อธิบดีคนใหม่แล้ว จะเร่งดำเนินการเพิกถอนโฉนดและเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดงทันที โดยใช้อำนาจตามระเบียบกรมที่ดิน พ.ศ. 2516 ซึ่งอดีตอธิบดีกรมที่ดินเคยระบุไว้ว่าสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว เนื่องจากมีคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นหลักฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญซึ่งครอบคลุมที่ดินของตระกูลการเมืองชื่อดังและธุรกิจของนักการเมืองในจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น สนามกีฬาขนาดใหญ่และโรงแรมหรู
ขั้นตอนการเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ดังนี้
ขั้นตอนการเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดที่ดิน
การเพิกถอนตามคำพิพากษาศาล: หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด เจ้าพนักงานที่ดินต้องดำเนินการตามคำสั่งศาลทันทีโดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน
การแก้ไขข้อผิดพลาด: กรณีที่เกิดความผิดพลาดจากการเขียนหรือพิมพ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าพนักงานที่ดินสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเช่นกัน
การเพิกถอนหรือแก้ไขในกรณีอื่นๆ: หากมีการกล่าวอ้างว่าเอกสารสิทธิ์ออกโดยมิชอบ อธิบดีกรมที่ดินจะเป็นผู้พิจารณาสั่งการ โดยมีขั้นตอนดังนี้
ตั้งคณะกรรมการสอบสวน: เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐาน
พิจารณา: คณะกรรมการจะพิจารณาและเสนอความเห็นต่ออธิบดี
สั่งการ: อธิบดีจะพิจารณาออกคำสั่งให้เพิกถอน แก้ไข หรือยกคำร้อง
ดำเนินการ: เจ้าพนักงานที่ดินจะดำเนินการตามคำสั่งนั้นๆ
นอกจากนี้ เมื่อพบว่ามีการออกโฉนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อธิบดีหรือผู้ได้รับมอบหมายจะสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 60 วัน (และสามารถขยายเวลาได้อีก 60 วัน)
จากนั้นคณะกรรมการจะรายงานผลการสอบสวนต่ออธิบดี เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งให้เพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดภายใน 45 วัน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะถูกแจ้งให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบ และมีสิทธิอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน
ขณะที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยผลการตรวจสอบกรณีข้อพิพาทที่ดินบริเวณ "เขากระโดง" อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ โดยมีราษฎรบางส่วนเข้าครอบครองและมีการออกเอกสารสิทธิซ้อนทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
ทั้งนี้ ข้อพิพาทดังกล่าวผ่านการพิจารณาในหลายคดี ทั้งคดีแพ่ง ปกครอง และศาลฎีกา ซึ่งศาลมีคำพิพากษาชัดเจนให้ถือว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของ ร.ฟ.ท. และผู้ครอบครองต้องออกจากพื้นที่ ส่วนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบต้องถูกเพิกถอนโดยกรมที่ดิน
อย่างไรก็ตาม กรมที่ดินกลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามคำพิพากษา แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแล้วก็ตาม โดยอ้างความไม่ชัดเจนในแนวเขต รวมถึงการใช้แผนที่ปี 2539 แทนแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาปี 2464 ซึ่งถูกใช้ในการสู้คดีจน ร.ฟ.ท. เป็นฝ่ายชนะ และพบว่าเป็นแผนที่ถ่ายทอดจากต้นฉบับเดิมอย่างถูกต้อง
คณะทำงานของกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบพบว่า ร.ฟ.ท. ได้ดำเนินการรังวัดแนวเขตร่วมกับกรมที่ดินแล้วเสร็จเมื่อปี 2567 ทำให้แนวเขตมีความชัดเจน จึงไม่มีเหตุผลใดที่กรมที่ดินจะไม่ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ
กระทรวงมหาดไทยย้ำว่า การเพิกเฉยของกรมที่ดินและคณะกรรมการตามมาตรา 61 อาจเข้าข่ายละเมิดคำสั่งศาล และอาจมีความผิดตามมาตรา 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของแผ่นดิน
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อมีคำสั่งให้ดำเนินการเพิกถอนโฉนดทั้งหมดที่อยู่ในแนวเขตที่ดินของ ร.ฟ.ท. โดยเร็ว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐและสร้างบรรทัดฐานการครอบครองที่ดินต่อไป