เตือน 4 ของในครัว ระวังเป็น “คลัง” สารอะฟลาทอกซิน ก่อมะเร็งเงียบๆ ตับพังไม่ทันตั้งตัว!
ระวัง! 4 สิ่งในครัว เสี่ยงสะสมสาร "อะฟลาทอกซิน" เชื้อราตัวร้ายแฝงในของใช้ประจำวัน ทำร้ายตับจนอาจพัฒนาเป็นมะเร็ง
ในยุคที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการดูแลตับ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่มักถูกละเลย การป้องกันโรคตับไม่ได้จำกัดแค่การงดดื่มแอลกอฮอล์หรือหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการควบคุมความปลอดภัยของอาหารในครัวด้วย เพราะหนึ่งในภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในเครื่องครัวของทุกบ้านก็คือ "อะฟลาทอกซิน" (Aflatoxin) สารพิษจากเชื้อราที่เป็นตัวการสำคัญของโรคมะเร็งตับ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากตับมีอาการผิดปกติทั้งที่ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง อาจเป็นเพราะเราละเลยความปลอดภัยของวัตถุดิบในครัว โดยเฉพาะ 4 สิ่งต่อไปนี้ที่มักถูกมองข้ามและเสี่ยงปนเปื้อนอะฟลาทอกซินสูง
1. ข้าวสารและแป้งที่ขึ้นรา
หลายบ้านนิยมซื้อข้าวสารหรือแป้งสาลีมาเก็บไว้ในปริมาณมาก แต่รู้หรือไม่ว่า ข้าวขาวและแป้งขัดขาวที่ผ่านการขัดสีจนสูญเสียเยื่อหุ้มเมล็ด จะมีอายุการเก็บรักษาสั้นลง และหากเก็บในที่ชื้นหรืออับ อาจเกิดเชื้อราได้ง่าย ซึ่งเชื้อราชนิดนี้สามารถผลิตสารอะฟลาทอกซินที่ทำลายตับได้โดยตรง
นอกจากนี้ อาหารกลุ่มแป้ง เช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด มันเทศ หากขึ้นรา ก็มีแนวโน้มสูงที่จะสะสมสารพิษชนิดเดียวกัน การรับประทานอาหารที่มีเชื้อราปนเปื้อนในระยะยาว อาจนำไปสู่โรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับโดยไม่รู้ตัว
คำแนะนำคือ ควรเก็บธัญพืชและอาหารแห้งไว้ในที่แห้ง ลมผ่านได้ดี หมั่นตรวจสอบกลิ่นและสภาพของวัตถุดิบ หากพบคราบราแม้เพียงเล็กน้อย ควรทิ้งทันที
2. ถั่วและธัญพืชที่มีรสขม
ถั่วต่างๆ เช่น อัลมอนด์ วอลนัต เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นของว่างยอดนิยมที่ดีต่อหัวใจและสมอง อย่างไรก็ตาม หากเก็บไว้นานหรือไม่ปิดภาชนะให้มิดชิด อาจเกิดการปนเปื้อนเชื้อราโดยไม่เห็นด้วยตาเปล่า สิ่งที่บ่งบอกว่าถั่วเริ่มมีสารพิษคือ “รสขมผิดปกติ” แม้ภายนอกจะดูปกติก็ตาม หากเผลอกินเข้าไป อาจรับสารอะฟลาทอกซินเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
คำแนะนำคือ หากพบว่าถั่วมีรสขม ควรบ้วนทิ้งทันทีและล้างปากให้สะอาด หลีกเลี่ยงการซื้อถั่วที่เก็บไว้นานหรือเก็บในที่อับชื้น
3. น้ำมันพืชที่หมดอายุ
น้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน ที่ใช้ทำอาหารทุกวัน หากเก็บไว้นานเกินไปหรือหมดอายุแล้ว ก็อาจเป็นแหล่งสะสมของอะฟลาทอกซินได้เช่นกัน เพราะวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันคือเมล็ดพืชที่เสี่ยงต่อเชื้อราโดยธรรมชาติ แม้น้ำมันจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืนที่ชัดเจน แต่หากเก็บไว้เกินกำหนด อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เป็นอันตราย
คำแนะนำคือ ควรเลือกน้ำมันที่บรรจุในขวดทึบแสง เก็บไว้ในที่แห้งเย็น และใช้ให้หมดภายในระยะเวลาที่กำหนด
4. อุปกรณ์ในครัวที่ขึ้นรา
อุปกรณ์ไม้ เช่น เขียง ไม้พาย ตะเกียบไม้ มักได้รับความนิยมเพราะไม่ทำลายพื้นผิวกระทะหรือหม้อ แต่หากไม่ทำความสะอาดหรือผึ่งให้แห้งอย่างเหมาะสม อาจเกิดเชื้อราได้ง่าย โดยเฉพาะเขียงที่เปียกชื้นหลังล้าง หากถูกเก็บเข้าที่เดิมทันทีโดยไม่ตากแดดหรือผึ่งลม ด้านล่างของไม้จะอับชื้นและเป็นแหล่งสะสมเชื้อรา ซึ่งอาจปนเปื้อนไปยังอาหารขณะปรุง
คำแนะนำคือ ล้างอุปกรณ์ไม้ให้สะอาดหลังใช้งาน แล้วผึ่งแดดหรือเก็บในที่แห้งสนิท หมั่นตรวจสอบคราบดำหรือกลิ่นอับ และเปลี่ยนใหม่ทันทีเมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ
อย่าลืมว่า ความปลอดภัยในครัวคือด่านแรกในการดูแลตับ อย่าให้ตับต้องทำงานหนักเพราะสารพิษที่มองไม่เห็นจากของใช้ในครัวทุกวัน การใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การเก็บรักษา ไปจนถึงการดูแลอุปกรณ์เครื่องครัว เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยปกป้องสุขภาพตับในระยะยาว เพียงแค่ไม่ละเลย “ความสะอาด - ความแห้ง - วันหมดอายุ” ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อสารก่อมะเร็งในครัวได้แล้ว