ปตท. ชูกลยุทธ์เด่น ผลประกอบการแข็งแกร่ง ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 44,848 ล้านบาท
ปตท. ชูกลยุทธ์เด่น สร้างผลประกอบการแข็งแกร่ง ครึ่งปีแรกกำไรพุ่ง 44,848 ล้านบาท มั่นใจกลยุทธ์มาถูกทาง แม้ว่าจะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกเพียบ
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรกปี 2568 ยังคงแข็งแกร่งด้วยกำไรสุทธิ 44,848 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิของทั้งปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 90,072 ล้านบาท ทำให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์มาถูกทาง แม้ว่าจะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้มีส่วนต่างของกำไรขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน ประกอบกับ Spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลง นอกจากนี้ในปี 2567 ยังมีการรับรู้กำไรจากรายการพิเศษที่มากกว่าปี 2568 ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ด้วยวิสัยทัศน์ "ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน" โดยมีพันธกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่สำคัญในไตรมาสที่ผ่านมา ดังนี้
ธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็นธุรกิจหลักที่ ปตท. มีความเชี่ยวชาญ โดยเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ มุ่งเน้นเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายธุรกิจด้านสำรวจและผลิต โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ได้ขยายการสำรวจและผลิตในแหล่งใหม่ ๆ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากทั้งแหล่งอาทิตย์ แหล่งสินภูฮ่อม และแหล่ง MTJDA รวมไปถึงชนะการประมูลในโครงการ Reggane II ขณะเดียวกัน ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2578 พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา
ธุรกิจ Non-Hydrocarbon มีความก้าวหน้าที่ดี เดินตามแผนกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุน โดยธุรกิจ Life Science ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ สร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเอง (Self-funding) ปรับการถือหุ้น Lotus ผ่านธุรกรรมการขายหุ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว รวมทั้งปรับโครงสร้างธุรกิจ EV จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด โดยเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้
การดำเนินงานด้านความยั่งยืน กลุ่ม ปตท. ยึดหลักการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างสมดุลใน 3 มิติ ได้แก่ 1. เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีการกระจายความเสี่ยง สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Security) 2. จัดหาแหล่งพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ (Affordability / Competitiveness) และ 3. ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การลดก๊าซเรือนกระจก (Sustainability) ดำเนินการศึกษา Eastern Thailand CCS Hub แล้วเสร็จ โดยมีการ FID โครงการ CCS ในแหล่งอาทิตย์ พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ด้านธุรกิจไฮโดรเจน ศึกษาโอกาสในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า พร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ในการจัดหาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวที่ผลิตในประเทศอินเดียสู่ประเทศไทยร่วมกับ Avaada Ventures Private Limited
สร้างความแข็งแรงจากภายใน ผ่านโครงการสำคัญที่จะช่วยยกระดับผลการดำเนินงาน เพิ่ม EBITDA Uplift และสร้างความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม ปตท. ในทุกมิติ ประกอบด้วย
- การบริหารความร่วมมือด้าน Supply Chain และ Marketing ของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ D1 และ Project One (P1) เพื่อยกระดับ Synergy ภายในกลุ่ม ปตท. และเตรียมความพร้อมขยายตลาดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ทำเรื่อง Operational Excellence (MissionX) ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ (Lean Process) ควบคู่กับการทำ Change Management และ Best Practice Sharing เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
- ขับเคลื่อน Digital Transformation (Axis) โดยผลักดันให้เกิดการพัฒนา Use Cases สนับสนุนธุรกิจกลุ่ม ปตท. พร้อมทั้งพัฒนา Infrastructure และศักยภาพพนักงาน
- Asset Monetization (A1) การบริหารสินทรัพย์เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดของกลุ่ม ปตท. เพิ่ม Asset Optimization & Synergy และปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสม
- Financial Excellence (F1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งและวินัยทางการเงินเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุน สอดคล้องพันธกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ดำเนินการสร้างความแข็งแรงร่วมกับสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านกิจกรรมและโครงการสำคัญที่ได้ดำเนินการช่วงครึ่งปี 2568 ได้แก่
1) การผนึกพันธมิตรทางการเงินต่างๆ ลงทุนในตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ Young Saver Bond เป็นครั้งแรก เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ 2) กลุ่ม ปตท. ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนในทุกวิกฤตของประชาชนและประเทศ อาทิ การเร่งส่งมอบถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นไปยังศูนย์พักพิงผู้อพยพในสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา และการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน จ.แพร่ และ จ.น่าน 3) กลุ่ม ปตท. ให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยในสภาวะผลผลิตล้นตลาด ผ่านโครงการชวนคุณสร้างรอยยิ้มให้เกษตรกร และโครงการชุมชนยิ้มได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ปตท. ยังคงสานต่อการเผยแพร่โครงการตามพระบรมราโชบายด้านการพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติชุด "สายน้ำแห่งชีวิต" และจัดกิจกรรม "สายธารพระเมตตา เปรมประชาวนารักษ์" เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นชัดถึงการที่กลุ่มปตท. ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสมดุลและยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผลงานกลุ่มปตท. ครึ่งแรก ปี 2568 – ส่องมุมมองครึ่งปีหลัง
- ‘กลุ่ม ปตท.’ เผยกำไรครึ่งแรกปี 2568 อยู่ที่ 44,848 ล้านบาท เร่งปรับแผนเสริมแกร่ง
- กลุ่ม ปตท. ส่งถุงยังชีพช่วยประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ประสบอุทกภัย
ติดตามเราได้ที่