เหนื่อยล้า ตาคล้ำ ผิวซีด! เมคอัพสไตล์สาวเหนื่อยมาแรง โดนใจเจน Z
พับเก็บสไตล์การแต่งหน้าแบบที่คุ้นเคยไปก่อนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นลุคใสๆ แนวธรรมชาติ ดูสุขภาพดี แบบ พส.จีน หรือจะแนวผิวสวย ฉ่ำวาวสไตล์เกาหลี เพราะเรากำลังจะพาไปอัปเดตเทรนด์แต่งหน้าแบบใหม่ โดยเฉพาะถ้าใครต้องมานั่งเสียเวลาเกลี่ยคอนซีลเลอร์ ปิดรอยคล้ำใต้ตา บอกเลยว่า นี่คือโอกาสทอง!
เพราะในโซเชียลกำลังมีเทรนด์แต่งหน้าที่กำลังฮิตบน TikTok นั่นคือ "Tired Girl makeup" หรือเมคอัพสไตล์ "สาวเหนื่อย" นั่นเอง
เดิมที โดยทั่วไปแล้ว มาตรฐานความงามมักจะชอบให้เราดูดี ดูสดใส อยู่เสมอ ผลิตภัณฑ์อย่างคอนซีลเลอร์ อายครีม หรือคอร์เรคเตอร์ก็เลยถูกสร้างมาเพื่อซ่อนความเหนื่อยล้า เพราะการดูเหนื่อยล้ามักถูกเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพ ความแก่ และดูไม่มีเสน่ห์
แต่เทรนด์ "Tired Girl" กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง! เพราะมันคือการมองข้าม “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ที่เราเคยพยายามปกปิดมาตลอด
'Tired Girl' Look เป็นอย่างไร?
ลองนึกภาพการแต่งหน้าของ Jenna Ortega ในบทบาท Wednesday Addams จากซีรีส์ "Wednesday" ทาง Netflix ซึ่งกำลังเป็นตัวแทนของเทรนด์นี้แบบปฏิเสธไม่ลง จากทั้งรอยใต้ตาที่ถูกทาให้ดูช้ำเล็กน้อย มีเงาดำรอบดวงตา ผิวหน้าซีดเซียว โหนกแก้มเน้นด้วยสีเทาอ่อนๆ รวมถึงริมฝีปากที่มีสีม่วงระเรื่อเล็กน้อย ซึ่งช่างแต่งหน้าของซีรีส์เรื่องนี้ตั้งใจให้ Wednesday ดูเป็นคนที่ไม่ได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการแต่งหน้า เพราะเธอมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากกว่า
และนี่คือหัวใจของเทรนด์นี้..
ดวงตาที่ดูเหนื่อยล้า : มีรอยคล้ำใต้ตา หรือมีการเกลี่ยอายแชโดว์สีเข้มใต้ตาให้ดูเหมือนมีถุงใต้ตาแบบไม่ต้องปิดบัง
ผิวหน้าซีดเซียว : ใช้รองพื้นที่สีสว่างกว่าผิวจริงเล็กน้อยและไม่ปกปิดใต้ตามากนัก
ริมฝีปากซีดหรือมีสีม่วง/คล้ำ : ให้ความรู้สึกเหมือนริมฝีปากที่ถูกกัดเบาๆ
โดยรวมคือ "ความไม่เนี้ยบ" และ "ความเป็นธรรมชาติ" พร้อมกับความขบถเล็กๆ
แรงบันดาลใจจากยุคเก่าและคนดังยุคใหม่
สำหรับเจนอื่นๆ ที่มาก่อนเจน Z อาจจะคุ้นเคยกับลุคแนวนี้จากภาพยนตร์เก่าๆ อย่าง แอนเจลินา โจลี ใน "Girl Interrupted" หรือ นาตาลี พอร์ตแมนวัยเด็กใน "Leon"
นาตาลี พอร์ตแมน ใน Leon The Professional (1994)
ส่วนคนดังในปัจจุบันที่หลงใหลในเทรนด์นี้ก็มีทั้ง Lily Rose-Depp, Gabbriette, Emma Chamberlain, Danielle Marcan และ Lara Violetta Gabbriette เป็นที่รู้จักจากลุค "smudgy eyes" ที่มักจะเป็นสไตล์สโมกกี้หรือกรันจ์ แม้กระทั่ง Emma Chamberlain ก็เคยทดลองแต่งหน้าที่ทำให้ผิวรอบดวงตาดูเหมือนมีรอยช้ำมาแล้ว
ทำไมเทรนด์นี้ถึงได้รับความนิยม?
เมื่อถามว่า ทำไมการแต่งหน้าแบบ "สาวเหนื่อย" หรือ Tired Girl จึงกลายเป็นเทรนด์นั้น
อย่างแรก คือ การแต่งหน้าแบบนี้ จัดว่า "ง่ายต่อการทำตาม"
ช่างแต่งหน้า Tara McDonald กล่าวว่า "ใครๆ ก็สามารถแต่งหน้าลุคนี้ได้" โดยไม่จำเป็นต้องเป็นช่างแต่งหน้าผู้เชี่ยวชาญ แถมยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้แปรงแต่งหน้าด้วยซ้ำ
เทรนด์แฮชแท็ก #tiredgirlmakeup สุดฮิตบน TikTok
นอกจากนี้ การกลับมาฮิตในปัจจุบัน ก็เพราะมันสอดคล้องกับสภาพสังคม-ความเป็นอยู่ของคนรุ่นใหม่วันนี้ ที่ "เหนื่อย" จนอยากจะลุกขึ้นมาขบถอะไรซักอย่าง ซึ่งเทรนด์แต่งหน้าแบบ "Tired Girl" ถือเป็น "การต่อต้านความสมบูรณ์แบบ"ที่ตรงกันข้ามกับความงามแบบ "Clean Girl" ซึ่งเป็นลุคที่เน้นความสดใส ผิวโกลว์ และแต่งหน้าน้อยที่สุดที่เคยได้รับความนิยมจาก Bella Hadid หรือ Hailey Bieber ซึ่งวันนี้ ผู้คนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับความสมบูรณ์แบบบนโซเชียลมีเดียแล้ว
นอกจากนี้ ยังสะท้อน "ความจริงและความเปราะบาง" ซึ่งผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า การที่ Gen Z โอบรับเทรนด์นี้ อาจสะท้อนถึงความท้าทายที่คนหนุ่มสาวเผชิญอยู่ เช่น แรงกดดันจากการเรียน การเงิน หรือความกังวลเกี่ยวกับอนาคต การแสดงออกถึงความเปราะบางและอารมณ์ขันที่มืดมิด กลายเป็นกลไกในการรับมือ เพื่อบอกว่า "ฉันเหนื่อยล้าและไม่มั่นใจในอนาคต แต่ฉันจะหัวเราะท่ามกลางความมืดมิดนี้"
ความแตกต่างและธรรมชาติที่ "ฉาบฉวย" สิ่งสำคัญคือ "Tired Girl" ไม่ใช่สไตล์ Gothic ที่เน้นผิวขาวซีดและการแต่งตาที่ดำเข้มกว่า และยังแตกต่างจากเทรนด์ Aegyo-sal ของเกาหลีที่เน้นถุงใต้ตาเพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ แม้ว่ามันจะมีความเชื่อมโยงกับสไตล์ Grunge ที่โดดเด่นเรื่องความไม่เรียบร้อยและเป็นธรรมชาติ ซึ่ง Courtney Love เคยทำให้เป็นที่นิยม
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเทรนด์ "Tired Girl" เป็นเพียงปรากฏการณ์ "core" ที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว เช่น "cottagecore" หรือ "Barbiecore" ซึ่งมักจะอยู่ได้ไม่นาน มันเป็นวิธีที่รวดเร็วในการแสดงออกถึงตัวตนหรืออารมณ์ แต่ก็มักจะถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ไวรัลใหม่ๆ อยู่เสมอ
ไม่ว่าเทรนด์ "Tired Girl" จะอยู่ได้นานแค่ไหน แต่สาระสำคัญของมันคือการ ต่อต้านความสมบูรณ์แบบ และการยอมรับ "ความเป็นจริง" ในตัวเราทุกคน ไม่ว่าเราจะรู้สึกเหนื่อยล้าแค่ไหนก็ตาม
อ้างอิง : aol