ว่างแต่ไม่พร้อมคุย ไม่ได้ละเลยแต่ลืมตอบแชต อะไรทำให้เราเป็นแบบนี้?
“ขอโทษทีนะ พอดีอาบน้ำเสร็จก็หลับไป เลยไม่ได้ตอบ”
“นั่งรถกลับบ้านแล้วก็ลืมตอบเลย ขอโทษที”
ช่วงนี้ปัญหาเรื่องการแชตกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ไม่ว่าจะตอบยาว ตอบสั้น หรือล่าสุดมีเทรนด์ตลกๆ ว่าการที่เราทำนู่นทำนี่แล้วอาจจะเผลอไม่ทันได้ตอบ ซึ่งบางทีก็อาจมีจริงๆ เมื่อตกกลางคืน เราจะไม่อยากจับโทรศัพท์ หรือมีปฏิสัมพันธ์เชื่อมต่อกับผู้คน กระทั่งยอมรับว่าบางครั้งเห็นข้อความแล้ว แต่ก็ตั้งใจไม่กดอ่าน ขอให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้
ประเด็นเรื่องการตอบแชตเร็ว-ช้า พร้อมตอบแค่ไหน ต้องตอบไวแค่ไหน สุดท้ายอาจลามไปถึงความรู้สึกลึกๆ ของใจว่า การไม่ตอบนี่คือไม่ใส่ใจกันรึเปล่า? ส่วนหนึ่งมาจากการที่โลกออนไลน์ทำให้เรา ‘เชื่อมต่อ’ กันตลอดเวลา เราจึงถูกคาดหวังและไปคาดหวังให้ทุกอย่าง ‘รวดเร็วและฉับพลันทันที’ จนการสื่อสารแทรกซึมเข้าไปอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวและในทุกช่วงเวลามากขึ้น
ประเด็นของการเลือกตอบ-ไม่ตอบ การลืมตอบจริงๆ หรือการตั้งใจไม่ตอบ อาจอธิบายได้ทั้งในตัวการกระทำเอง ว่าเกิดจากทั้งความเหนื่อยล้าในการตัดสินใจ ความอยากจะตอบที่ตั้งใจเกินไป หรือระบบที่ทำให้เราลืมจริงๆ ไปจนถึงข้อสังเกตที่ว่า การที่เรามี ‘เวลาว่าง’ หรือ free-time ที่ไม่หมายความว่าเราพร้อมตอบสนอง หรือ being available ซึ่งการเหมาคำว่าการมีเวลาว่างกับการพร้อมตอบสนองนี้ ถ้าพูดอย่างที่สุดแล้วเป็นคนละเรื่องกัน และเราเองก็มีสิทธิในการจัดการเวลาว่างให้ไม่ว่าง-บ้าง ตามความเหมาะสม
เหนื่อยจะตัดสินใจ ตั้งใจจะตอบ และคนมันลืมจริงๆ นะ
ไม่แน่ใจว่าประเด็นเรื่องการอ่านไม่ตอบ ไม่อ่านไม่ตอบ เห็นแล้วไม่ตอบ หรือลืมตอบไปเลย ยังกลายเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลกับความสัมพันธ์อยู่ไหม แต่ถ้าเราดูจากช่วงวัย ชาวออนไลน์ที่มักจะเป็นเจนวายจากยุคสมัยที่ทุกคนตื่นเต้นกับการออนไลน์ การพูดคุยเชื่อมต่อกันตลอดเวลา มาเป็นวัยที่เริ่มทำงาน ใช้ชีวิตวุ่นวาย จนการออนไลน์พูดคุยกันอาจเริ่มไม่เชื่อมต่อกันตลอดเวลาอีกต่อไป
แต่ด้วยลักษณะของชีวิตประจำวันและโลกออนไลน์ก็มีคำตอบอยู่บ้าง ว่าทำไมเราถึงไม่ค่อยตอบแชตในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ อย่างแรกคือ ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยการต้องตัดสินใจ ต้องให้ความสำคัญ ให้ความสนใจ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการจะพูดคุยหรือโต้ตอบนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจเล็กๆ ที่เราจะต้องกดหน้าต่างขึ้นมา คิดอะไรบางอย่าง คิดถ้อยคำ และตอบสนองกลับไป
ดังนั้น ภาวะล้าต่อการตัดสินใจ และการต้องมีอะไรผ่านในหัวมากมาย จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราจงใจปัดการตอบสนองเชิงสังคม หรือเลื่อนการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันออกไป
ยิ่งถ้าเราพิจารณาพื้นที่ที่เราจะตอบสนองหรือตอบแชต หลายครั้งกลับเป็นช่วงเวลาที่เราเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรา ‘กลับเข้าไปข้างใน’ สู่ตัวเอง เป็นพื้นที่ของการหยุด พักผ่อน และตัดขาดการเชื่อมต่อจากพื้นที่ภายนอก โดยเฉพาะภายหลัง เมื่อพื้นที่อย่างโปรแกรมแชตและอื่นๆ เริ่มถูกรุกรานด้วยพื้นที่การทำงาน
การตอบแชตในบางครั้งเป็นสิ่งที่ดูเรียบง่าย แต่สำหรับบางคนหรือบางจังหวะ การตอบหรือสื่อสารกับผู้คนอาจจะมีความคาดหวัง ตั้งใจที่จะพูดคุย ต้องคิดกับเรื่องนั้นๆ อยู่ ดังนั้น ภาวะการไม่ตอบแชตจึงอาจไม่ได้หมายความเพียงความไม่สนใจ แต่การสนใจอย่างจริงจังนั่นเองทำให้ผู้ตอบตั้งใจเลื่อนเวลาการคุยออกไป เพื่อขอตั้งสติ ตั้งจิตใจให้พร้อม เพราะคาดหวังว่าจะตอบให้ดี
นอกจากประเด็นจากความรู้สึกแล้ว หลายครั้งยังเป็นประเด็นเรื่องเทคนิค การเข้าออกของหน้าแชต บางครั้งเข้ามาอย่างเงียบๆ เพราะเสียงแจ้งเตือนมักจะถูกปิด กระทั่งหลายระบบมีระบบห้ามรบกวน ระบบโฟกัสการนอนหลับ จนทำให้การหลงลืมในบางครั้งนั้น หมายถึงการลืมจริงๆ ไม่ได้จับมือถือ ไม่ได้กดเข้าโปรแกรม หรือเผลอหลับไปเลย ก็เป็นไปได้-จริงๆ นะ
เวลาว่างไม่เท่ากับพร้อมสนอง
ทีนี้ ถ้าอธิบายอาจจะฟังดูเย็นชา เราต้องใจเย็นๆ และเข้าใจเรื่องประเด็นพื้นที่ส่วนตัวและช่วงเวลาส่วนตัวก่อน สิ่งหนึ่งที่โลกออนไลน์เข้าไปรบกวน คือสิ่งที่เราเรียกว่า ‘เวลาว่าง’ (free time) และการที่ ‘คนคนนั้นมีเวลาพร้อมตอบสนอง’ (availability) ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจและเราอาจหลงลืมไป
คำว่า การมีเวลาว่าง เป็นอิสระอย่างเต็มที่ของคนคนหนึ่ง นั่นคือเราจะใช้เวลาในการจัดการชีวิต พักผ่อน ดูแลตัวเอง ตัดขาดจากโลกภายนอก ความว่างจึงไม่ได้หมายความว่าพร้อมจะตอบสนองต่อสิ่งใดๆ ซึ่งทุกคนก็มีอิสระในเวลาว่างของตัวเองอย่างเต็มที่ เป็นเรื่องของคนคนนั้น และต้องถือว่าไม่ใช่การเห็นแก่ตัวแต่อย่างใด รวมถึงความรู้สึกว่าจะไม่ทำอะไร หรือการหันกลับไปหาตัวเองอย่างเต็มที่ด้วย
ในขณะเดียวกัน ความว่างก็อาจนำไปสู่บางมุมมอง เช่น พอว่างเลยทำให้คิดถึงอีกฝ่าย ถ้ามองจากมุมหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องเชิงบวก เป็นเรื่องราวดีๆ แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นการวางความคาดหวังให้อีกฝ่ายมีความพร้อมในการตอบสนองกับเรา ดังนั้น ถ้าเราว่างแล้วคิดถึง หรือนึกถึงอีกฝ่ายก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ก็อย่าเพิ่งร้อนใจ หรือคาดหวังให้อีกฝ่ายว่างและพร้อมตอบสนองซึ่งกันและกันตลอดเวลา เพราะการให้พื้นที่ของเวลาว่างกับอีกฝ่ายนั้นน่าจะสำคัญเหมือนกัน
บางถ้อยคำอาจคิดแล้วจะรู้สึกถูกทิ่มแทง เช่น การไม่มีเวลา คือว่าง แต่ไม่มีเวลา ‘ให้’ แปลว่า เขากำลังเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ไปให้กับสิ่งอื่น ยกเว้นให้ความสำคัญกับเรา ตรงนี้เองก็ย้อนกลับไปที่ประเด็นเรื่องสิทธิในการจัดการเวลาว่าง รวมถึงอีกเงื่อนไขสารพัดที่บางครั้งชีวิตเราเองก็ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง จนเผลอปิดเครื่อง และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเงื่อนไขมากมายที่ผู้คนจะตัดสินใจทำ หรือไม่ทำในพื้นที่ส่วนตัว โดยเฉพาะในเวลาก่อนเข้านอน
จากที่เขียนมาทั้งหมด ในฐานะเจนวายปลาย 30 ก็อยากบอกว่า จากข้อมูล จากประสบการณ์ส่วนตัว บางครั้งการตอบแชตถือเป็นกิจวัตรที่ถูกนำไปรวมกับกิจกรรมอื่นๆ ในหมวดการตัดสินใจ และการสื่อสารจริงๆ ซึ่งหลายครั้งการลืมตอบก็คือลืมตอบจริงๆ เผลอหลับก็คือเผลอหลับจริงๆ
ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า การไม่ตอบแชต การดองแชตจะมีสิทธิพิเศษไปตลอด เราเองก็ต้องยอมรับว่า หลายครั้งการตอบแชตสามารถสะท้อนความรู้สึก ความสัมพันธ์ต่างๆ อยู่ด้วย ไม่ว่าจะตอบยาว ตอบสั้น ตอบไว ตอบไปอย่างนั้น หรือลืมตอบเป็นวันๆ ถ้าฝ่ายหนึ่งคิดว่าเป็นปัญหา การเปิดใจพูดคุย รวมถึงการดูแลหัวใจซึ่งกันและกัน ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ควรร่วมกันทำ เพื่อรักษากันและกันไว้
อ้างอิงจาก
Graphic Designer: Sutanya Phattanasitubon
Editorial Staff: Taksaporn Koohakan