'อียู' เสียงแตก ลังเลใช้ทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัด ช่วยฟื้นฟูยูเครนหลังสงคราม
คายา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เผยเมื่อวันเสาร์ (30 ส.ค.) ว่า สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมพิจารณาวิธีการนำทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ไปใช้เป็นเงินทุนในการป้องกันประเทศและฟื้นฟูประเทศให้กับยูเครนหลังสงคราม แต่การยึดทรัพย์สินเหล่านั้นในขณะนี้ไม่มีความสมเหตุสมผลทางการเมือง
อียู ระบุว่า ทรัพย์สินรัสเซีย ราว 210,000 ล้านยูโร (ราว 8 ล้านล้านบาท) ถูกอายัดไว้ในอียูภายใต้มาตรการคว่ำบาตรมอสโกเนื่องจากการรุกรานยูเครน
ยูเครนและประเทศในอียูบางประเทศ รวมถึงเอสโตเนีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ เผยว่า ควรยึดทรัพย์สินรัสเซียทันทีและนำไปใช้สนับสนุนเคียฟ ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณหลายหมื่นล้านยูโรในปีหน้าเพียงปีเดียว
หลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก คัลลาสกล่าวว่า ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า “แทบเป็นไปไม่ได้ที่รัสเซียจะได้รับเงินจำนวนนี้คืน ถ้าไม่นำไปชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสงครามให้กับยูเครนอย่างครบถ้วน”
คัลลาสกล่าวว่า “เราไม่เห็นว่าพวกเขาคิดจะจ่ายค่าเสียหาย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องหากลยุทธ์ทางออก” ในการใช้ทรัพย์สินเหล่านี้เมื่อสงครามสิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสและเยอรมนี ประเทศมหาอำนาจในอียู รวมถึงเบลเยียม ที่ถือครองทรัพย์สินรัสเซียส่วนใหญ่ ได้ปฏิเสธแนวคิดยึดทรัพย์รัสเซียไปช่วยยูเครน โดยพวกเขาได้ตั้งคำถามถึงความถูกต้องตามกฎหมายของการดำเนินการดังกล่าว และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสกุลเงินยูโร ขณะเดียวกันก็ชี้ว่ากำไรจากทรัพย์สินเหล่านั้นกำลังถูกนำไปใช้สนับสนุนยูเครนอยู่แล้ว
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์สเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า รัสเซียส่งสัญญาณว่าอาจตกลงใช้ทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้เพื่อฟื้นฟูประเทศยูเครน แต่ก็อาจยืนยันว่าเงินส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในดินแดนของยูเครนที่กองกำลังของตนควบคุมอยู่