หนุ่มหลอนยา อ้างเป็น "พระถังซัมจั๋ง" กลับชาติมาเกิด วันๆอ้างสารพัดเทพ
13 ส.ค. 2568 เวลา 08.00 น. นายราชวัชร์ เพ็ชร์ไพฑูรย์ นายอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ในฐานะเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดฯ (ผอ.ศป.ปส.อ.บ้านแพง) เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers (ไม่มียาเสพติด ไม่มีผู้ค้า) ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ได้รับแจ้งจากนายคำผง (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ราษฎรบ้านเนินคะนึง หมู่ 5 เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง ว่า ลูกชายชื่อ นายชาย(นามสมมติ) อายุ 34 ปี เสพยาบ้านานกว่า 5 ปี จนเกิดอาการหลอน ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว รวมทั้งทำลายข้าวของเสียหายเป็นประจำ
หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้นายพงศ์เพชร มีจิตต์ใส ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนบ้านแพงที่ 5 (อส.ฯ) เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบนายชายนั่งปอกสายไฟอยู่ในห้อง เกิดอาการตกใจที่เห็นเจ้าหน้าที่มาบ้านกันหลายคน จึงใช้มีดปอกสายไฟจ่อที่คอตัวเอง ส่งเสียงตะโกนไม่ให้ใครเข้ามาใกล้
ทาง อส. ก็ได้เกลี้ยกล่อมอยู่นานจนอาการสงบและยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายชายส่ง รพ.บ้านแพง เพื่อส่งต่อไปยังมินิธัญรักษณ์
ระหว่างให้แพทย์ตรวจร่างกายเบื้องต้น เห็นตามตัวมีรอยสักคล้ายตัวละครในวรรณกรรมอมตะของจีนเรื่องไซอิ๋ว จึงได้สอบถามนายชายอ้างว่า ตนเป็นพระถังซัมจั๋งกลับชาติมาเกิด ต้องการมาช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากกิเลส เจ้าหน้าที่ได้แต่พยักหน้าทำทีคล้อยตาม เพื่อจะนำตัวไปห้องน้ำตรวจปัสสาวะว่ามีสารเสพติดหรือไม่ ผลออกมาฉี่เป็นสีม่วง ซึ่งพระถังซัมจั๋งชายยอมรับว่า เพิ่งเสพยาบ้ามาตอนเช้า
ด้านนายคำผงเปิดเผยว่า หัวอกคนเป็นพ่อ ไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเองไปถูกกักกัน แต่ด้วยความจำเป็นจริงๆ เพราะนายชายเสพยาบ้าจนควบคุมสติไม่ได้ มีอารมณ์ฉุนเฉียวและคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ ถึงขั้นทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว
เมื่อถามถึงอาการตอนขณะนายชายคลั่งยา นายคำผงตอบว่า จะส่งเสียงโวยวาย และตนไม่ใช่พ่อที่แท้จริง อ้างเป็นเทพจุติมาเกิด ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ อีกหน่อยก็จะมีสารพัดเทพมาอยู่ในตัวเขา ตนจำเป็นต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่นำตัวลูกไปเข้าสู่กระบวนบำบัดรักษา และไม่ได้คาดหวังมากแค่ให้เขาไม่หวนกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเท่านั้น