โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

มช. เปิดตัวหุ่นยนต์ผ่าตัด HUGO RAS แห่งแรกในอาเซียน ดันไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัว นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ HUGO RAS New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับระบบบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง การตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน ให้บริการทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายทันสมัยอย่างสูงสุด ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ ชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มช.

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “คณะแพทยศาสตร์ มช. มุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการสุขภาพโดยยึดหลักนวัตกรรม ความยั่งยืน และความเสมอภาค เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ระดับนานาชาติ และแบบอย่างของโรงเรียนแพทย์แห่งอนาคต ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ การวิจัย และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ตามวิสัยทัศน์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ ด้วยนวัตกรรม

หุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่นี้ ได้รับการออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ที่สามารถทำหัตถการในหลายส่วนภายในร่างกาย ถูกออกแบบโดยบริษัท Medtronic ด้วยแนวคิด Modular Platform ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับศัลยแพทย์ ด้วยแขนกลที่สามารถเลียนแบบการหมุนของข้อมือมนุษย์ แต่มีอิสระมากกว่า ทั้งยังมาพร้อมคอนโซลเปิดตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ศัลยแพทย์สามารถควบคุมการผ่าตัดได้แม่นยำและสบายขึ้นแม้ต้องใช้เวลานาน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันผ่านจอแสดงผล 3 มิติแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ศัลยแพทย์กำลังทำการผ่าตัด และผู้สังเกตการณ์สามารถดูภาพและสื่อสารร่วมกันได้ตลอดเวลา”

รศ.นพ.นเรนทร์ กล่าวเสริมว่า วงการศัลยกรรมของไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมาใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการรักษา โดยเฉพาะการผ่าตัดที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อผู้ป่วย ทั้งในแง่ของความเจ็บปวดที่ลดลงและระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นลง

เทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) ที่มีหุ่นยนต์เป็นผู้ช่วย ทำให้ศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดน้อยลง ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวัน ปัจจุบันผู้ป่วยบางรายสามารถพักฟื้นเพียงแค่ 3 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดติดตั้งในโรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 17 ตัว โดยบุคลากรทางการแพทย์ได้ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น ทั้งจากการใช้เครื่องฝึกผ่าตัดจำลอง (Simulator) และการฝึกปฏิบัติจริงในศูนย์ฝึกอาจารย์ใหญ่ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้เครื่องมือได้อย่างเชี่ยวชาญและปลอดภัยสูงสุด

ด้านศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเพิ่มเติมว่า “คณะแพทยศาสตร์ มช. มีการเริ่มนำหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมาใช้เพื่อการรักษาผู้ป่วยตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2554 โดยเน้นการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมากและการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ หุ่นยนต์ผ่าตัดไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยให้แพทย์ทำหัตถการได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด ครอบคลุมทุกระบบการผ่าตัด สำคัญต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วย และในปีนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัวระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดรุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นการนำระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมาใช้งานเป็นที่แรกของประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองรับการผ่าตัดในหลากหลายระบบของร่างกาย เช่น

  • ระบบทางเดินปัสสาวะ: มะเร็งต่อมลูกหมาก, กระเพาะปัสสาวะ, ไต
  • ทางเดินอาหาร: มะเร็งลำไส้ใหญ่, หลอดอาหาร, ทวารหนัก
  • ตับ ตับอ่อน และน้ำดี: มะเร็งตับ, นิ่วในถุงน้ำดี
  • ศัลยกรรมทั่วไปและนรีเวช: ไส้เลื่อน, เนื้องอกมดลูก, เนื้องอกรังไข่, อุ้งเชิงกรานหย่อน

นอกจากนี้คณะแพทยศาสตร์ มช. ยังเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมด้านหลักสูตรฝึกอบรมศัลยแพทย์ในการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดเพื่อพัฒนาแพทย์เฉพาะทางรองรับความต้องการระดับประเทศและภูมิภาค และโครงการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมการรักษา สนับสนุนการศึกษาผลลัพธ์ทางคลินิก ความปลอดภัย และการประยุกต์ใช้งานในบริบทของไทย นวัตกรรมนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศไทยมีศัลยแพทย์ที่มีความสามารถระดับสากล พร้อมทั้งเพิ่มการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ป่วยทุกกลุ่ม

“หุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่นี้ ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือความหวังใหม่ของผู้ป่วยและระบบสุขภาพไทย ที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือระดับโลก โดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางแห่งการเริ่มต้นสู่อนาคต”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

สพฐ.-มสธ. ปั้นเยาวชน เพิ่มโอกาสต่อยอดสู่อาชีพในอุตฯภาพยนตร์

23 นาทีที่แล้ว

หลักเกณฑ์ช่วยเหลือประชาชน 2566 ล่าสุด อปท.แจ้งกรณีเกิดสาธารณภัย

34 นาทีที่แล้ว

ชาวนาวอนรัฐคลายกฎ “บินโดรน” ช่วยลดต้นทุนหว่านปุ๋ย-พ่นยา-ค่าแรงแพง

42 นาทีที่แล้ว

แบลคมอร์สผนึกร้านยาทั่วไทยขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่นๆ

ตลาดความงามมาแรง BLC ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต-เปิดตัวสินค้าใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

รู้จัก"ไข้มาลาเรีย" โรคร้ายที่มาจากยุงก้นปล่อง ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งปลอดภัย

TNN ช่อง16

Import of poultry from Cambodia suspended over bird flu concerns

Thai PBS World

สธ. หนุนข้าว กข. 43 "คาร์บคุณภาพ" ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ลดเสี่ยง NCDs

ฐานเศรษฐกิจ

กองทุนบัตรทอง ปี 69 งบกว่า 2.65 แสนล้าน บอร์ดสปสช.ไฟเขียวเกณฑ์จ่าย

กรุงเทพธุรกิจ

เกินคาด! 8 ประโยชน์ "แตงโม" ไม่ใช่แค่ดับร้อน แต่ดีต่อสุขภาพกว่าที่คิด

Amarin TV

สธ. จ่อให้ สิทธิเรียนฟรี ครอบครัวทหาร-ตำรวจปะทะชายแดนไทยกัมพูชา

ฐานเศรษฐกิจ

‘พลังแห่งความสงสัย‘ เปิดประตูโลกกราฟิก ปั้นนักออกแบบทักษะรอบด้าน

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...