สื่อเผยรัฐบาลทรัมป์เล็งเข้าถือหุ้น 10% ใน ‘อินเทล’
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
ซานฟรานซิสโก, 19 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (18 ส.ค.) สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่ารัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเข้าถือหุ้นร้อยละ 10 ในอินเทล คอร์ปอเรชัน (Intel Corporation) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ และช่วยฟื้นฟูบริษัทผู้ผลิตชิปแห่งนี้ที่กำลังเผชิญปัญหา
แหล่งข่าวเผยว่ามีการหารือถึงการแปลงเงินสนับสนุนที่เพิ่งจัดสรรโดยรัฐบาลกลาง จำนวนราว 1.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.53 แสนล้านบาท) ให้กลายเป็นการถือหุ้นในอินเทล ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของอินเทล
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่าแผนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนส่วนใหญ่ภายในรัฐบาลหรือไม่ รวมถึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะถือหุ้นในสัดส่วนเท่าใด หรือรัฐบาลจะเดินหน้าตามแผนนี้จริงหรือไม่
เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ (The New York Times) และบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่ายังมีความไม่แน่นอนว่ารัฐบาลทรัมป์จะดำเนินการในลักษณะเดียวกันกับบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับเงินสนับสนุนภายใต้กฎหมายว่าด้วยชิปและวิทยาศาสตร์ (Chips and Science Act) หรือไม่
ด้านคุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด โดยย้ำว่ายังไม่ควรถือว่ามีข้อตกลงใดเป็นทางการจนกว่ารัฐบาลจะประกาศอย่างเป็นทางการ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งกำกับดูแลกฎหมายดังกล่าว ได้ออกมาปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เช่นเดียวกับอินเทลที่ยังไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดใดๆ เช่นกัน
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมระบุว่าหากข้อเสนอนี้เกิดขึ้นจริงจะถือเป็นหนึ่งในการแทรกแซงกิจการภาคเอกชนครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ นับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 และหากการหารือนำไปสู่ข้อตกลง จะต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทอินเทล นอกจากนี้ ข้อตกลงนี้อาจเผชิญกับความท้าทายด้านความชอบธรรมจากผู้ถือหุ้นของอินเทลหรือจากบริษัทรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมด้วย