'คิม จองอึน' สั่งขยายอาวุธนิวเคลียร์ อ้างการซ้อมรบร่วมสหรัฐฯ-เกาหลีใต้เป็นภัย
'คิม จองอึน' สั่งขยายศักยภาพนิวเคลียร์ อ้างการซ้อมรบร่วมสหรัฐฯ-เกาหลีใต้เป็นภัยต่อชาติ
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้เรียกร้องให้มีการ ขยายศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศอย่างรวดเร็ว โดยอ้างถึงการซ้อมรบทางทหารร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเขากล่าวว่าอาจเป็นชนวนเหตุ ทำให้สงครามได้
"ความสัมพันธ์ทางทหารที่มากขึ้น รวมถึงการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดถึงเจตนาของพวกเขาที่จะจุดฉนวนสงคราม"คิม จองอึนกล่าว
คิม จองอึนกล่าวต่อว่า "สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้เรียกร้องให้เราต้องทำการเปลี่ยนแปลงทางทฤษฎีและการปฏิบัติทางทหารที่มีอยู่เดิมอย่างถอนรากถอนโคน พร้อมกับการขยายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว"
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นขณะที่คิม จองอึนเดินทางไปเยี่ยมชมเรือพิฆาต 'โช ฮยอน' เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 สิงหาคม)
KCNA ระบุว่า คิม จองอึนรู้สึกพอใจที่ภารกิจหลักในการยกระดับกองทัพเรือให้เป็นกองทัพไฮเทคและติดอาวุธนิวเคลียร์กำลังดำเนินไปเป้า ก่อนจะถึงกำหนดการประเมินในเดือนตุลาคม
การซ้อมรบร่วมและท่าทีของเกาหลีใต้
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้เริ่มการซ้อมรบร่วมประจำปีเป็นเวลา 11 วันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) โดยมีการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ
ด้าน ลี แจมยอง ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ได้ให้คำมั่นว่าจะเคารพระบบการเมืองของเกาหลีเหนือและจะสร้างความไว้วางใจทางทหาร ซึ่งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เปียงยางกล่าวว่าไม่สนใจที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับโซล
ลี แจมยอง ได้ให้คำมั่นที่จะเดินหน้าเจรจากับเกาหลีเหนือโดยไม่มีเงื่อนไขนับตั้งแต่เขาได้รับเลือกตั้ เมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งนับว่าเป็นท่าทีที่แตกต่างจากประธานาธิบดีคนก่อน
โดยคำกล่าวของลี แจมยอง มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ คิม โยจอง น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า “เกาหลีเหนือไม่มีเจตนาที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้” นอกจากนี้เธอยังปฏิเสธรายงานที่ว่าเกาหลีเหนือกำลังถอดลำโพงโฆษณาชวนเชื่อใกล้ชายแดนของทั้งสองประเทศออก
อ่านบทความเพิ่มเติม: