โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

'มะเร็งต่อมน้ำเหลือง'พุ่ง ตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ รักษาหายได้

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 28 ส.ค. เวลา 22.01 น. • เผยแพร่ 29 ส.ค. เวลา 04.57 น.

โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง” ถือเป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งที่สามารถพบได้บ่อย และพบผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี โดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุน้อยที่เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งมีอัตราการเกิดโรค (incidence) เฉลี่ยต่อประชากรอายุ 20 ปีขึ้นไป อยู่ที่ประมาณ 6.4 รายต่อประชากร 100,000 คน ผู้เสียชีวิตจากโรคนี้อยู่ที่ประมาณ 3.4 รายต่อประชากร 100,000 คน

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง” เป็นภัยเงียบที่รุนแรงที่สุดในบรรดาโรคมะเร็งทางระบบโลหิตวิทยา และที่น่ากังวล คือ สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่าการตรวจคัดกรองและเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดภาระของระบบสาธารณสุขในระยะยาว

GLOW from WITHIN” ปีที่ 11 จัดโดย ชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย ฉายภาพความจริง "มะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายได้” หากตรวจพบและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยแคมเปญ "Miracle" ตรงกับวันที่ 15 กันยายนของทุกปี เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่าโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง พร้อมจัดเสวนา "MIRACLE 11: GLOW from WITHIN" (ปาฏิหาริย์ เปลี่ยนมะเร็ง ให้เป็นสุข: เปล่งประกายจากภายใน) ให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการรักษาแก่ผู้ป่วย จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน. 2568 เวลา 12.00 - 16.00 น. ณ ชั้น 3 โซน Eden ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" อับดับ 1 ของ มะเร็งทางระบบโลหิตวิทยา

วิธีสังเกตตนเอง“มะเร็งต่อมน้ำเหลือง” พบบ่อยในคนไทย

คนไทยป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น2เท่า

ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานชมรมโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าสถานการณ์ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับอดีต และเป็นมะเร็งที่สามารถรักษาหายได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆและโรคตอบสนองต่อการรักษาได้ดี แต่หากปล่อยไว้ไม่รักษาจะทำให้เกิดอาการลุกลามของโรค และอาจทำให้เสียชีวิตได้

“อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในประเทศไทย ขณะนี้ยังไม่มีการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นจากการเข้ามารับการรักษา พบว่า ผู้ชายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอัตราการป่วยเป็นอันดับ 6 ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ขณะที่ผู้หญิงจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอันดับ 7 หรืออันดับ 8 ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ดังนั้น สถานการณ์ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในขณะนี้ คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า”ศ.นพ.ธานินทร์ กล่าว

พบระยะแรกโอกาสหายถึง 70-90%

ปัจจัยที่ทำให้พบผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากขึ้น ส่วนตัวมองว่าไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหารการกิน เรื่องของสิ่งแวดล้อม อากาศ หรือการเกิดอุบัติโรคใหม่ๆ อาจเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้ เพราะผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่จะไม่มีปัจจัยเสี่ยง อย่าง สูบบุหรี่ หรือเป็นโรค HIV ที่ทำให้มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง 5 เท่า โดยบริเวณที่สามารถตรวจเช็กได้ว่าต่อมน้ำเหลืองโตผิดปกติ จะเป็นบริเวณใต้คาง คอ รักแร้ และขาหนีบ

“มะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะเกิดในกลุ่มอายุ 50-60 ปี และเพศชายมักจะพบมากกว่าเพศหญิง ซึ่งผู้ป่วยในระยะแรกจะไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากอาการจะเหมือนกับอาการอื่นๆ ที่พบได้ในภาวะต่างๆ เช่น การติดเชื้อ ภูมิแพ้ เหงื่อออกตอนกลางคืน เป็นไข้ต่ำๆตอนเย็นหรือตอนดึก และน้ำหนักลดผิดปกติ โดยผู้ป่วยที่มาซักประวัติ 98% ป่วยโดยไม่มีปัจจัยเสี่ยง”

ทั้งนี้ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นโรคมะเร็งเพียงไม่กี่ชนิดที่มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ โดยหากรักษาตั้งแต่ระยะที่ 1 จะมีโอกาสหายขาดถึง 70-90% เข้ารับการรักษาระยะที่ 2-4 มีโอกาสหายขาดได้ 60%ซึ่งในจำนวนนี้ 60% จะตอบสนองการรักษามาตรฐาน แต่อีก 40% จะไม่ตอบสนองการรักษา แบ่งเป็น 15% ดื้อต่อการรักษา และ 25% กลับมาเป็นซ้ำในระยะเวลา 2-5 ปี และจะมีภาวะดื้อยาด้วย

แนวทางรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง

การรักษาหลัก คือเคมีบำบัดและการฉายรังสี ขณะนี้มีแนวทางการรักษาที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ “ภูมิคุ้มกันบำบัด” ซึ่งดึงศักยภาพของร่างกายผู้ป่วยมาใช้ในการกำจัดเซลล์มะเร็งอย่างตรงเป้า อาทิ Bispecific Antibodies (แอนติบอดีชนิดจำเพาะสองเป้าหมาย) เปรียบเสมือนการติด “GPS” ให้เซลล์ภูมิคุ้มกันยาช่วยจับเซลล์ภูมิคุ้มกันและเซลล์มะเร็งเข้าด้วยกัน ทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถช่อนตัวได้อีกต่อไป และถูกกำจัดได้อย่างแม่นยำ แนวทางนี้กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้ผลการรักษาดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด”

นอกจากนั้น มีการรักษาแบบ CAR-T Therapy สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่โรคกลับมาเป็นซ้ำ มีการบำบัดที่เรียกว่า “ยาที่มีชีวิต” โดยนำเซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมาผ่านกระบวนการปรับแต่งพันธุกรรมในห้องปฏิบัติการเพื่อสร้างให้ตรวจจับและโจมดีเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ การรักษานี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดสำหรับผู้ป่วยที่เคยหมดหวัง

รวมถึง ยังมียาในรูปแบบรับประทานชนิดใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้ยาทางสายน้ำเกลือ แต่สามารถรับประทานได้เองที่บ้าน เพิ่มอิสระในการใช้ชีวิต และมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการรักษา

“การรักษาทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงการค้นพบยาตัวใหม่ แต่เป็นการพลิกโฉมการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งระบบ อนาคตการรักษาจะชาญฉลาดและจำเพาะเจาะจงมากขึ้น รบกวนร่างกายน้อยลง และออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายอย่างแท้จริง สำหรับผู้ป่วย นั่นหมายถึงการมีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้อยู่กับคนที่รัก และสำคัญที่สุดคือ มีผู้รอดชีวิตจำนวนมากขึ้นที่สามารถพูดได้อย่างภาคภูมิว่า 'หายขาดจากโรคนี้แล้ว” ศ.นพ.ธานินทร์ กล่าว

ป่วยระยะ4 รักษาโรคสงบได้

พลอย - ภัคธินันท์ อัครลักษมีพัชร อายุ 33 ปีอดีตผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4 เล่าว่าด้วยคนรอบตัวป่วยมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ที่เป็นมะเร็งเต้านม เพื่อนสนิทเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมีอยู่วันหนึ่งคลำบริเวณไหปลาร้าข้างขวาแล้วพบก้อน จึงได้ไปโรงพยาบาลเพื่อเจาะชิ้นเนื้อ และพบว่าเป็นเซลล์มะเร็งระยะที่ 4 ซึ่งมีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายแล้ว ตอนนั้นได้ปรึกษาแพทย์และเข้าทำการรักษา โดยใช้ยาเคมี และยาพุ่งเป้าไปพร้อมกันอย่างละ 12 เข็ม และมีอาการดื้อยาจึงได้ใช้การฉายรังสี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ปี และอาการสงบลง

“สัญญาณเตือนแรกๆ ของอาการเกิดโรค คือ มีไข้ต่ำๆ ในช่วงเย็นซึ่งเป็นมาหลายเดือน และเหงื่อออกโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เพราะผู้หญิงเวลาใกล้ๆ มีประจำเดือน มักจะมีอาการไข้ต่ำๆได้ ต่อมาก็คลำเจอก้อนมะเร็ง และเข้ารับการรักษาทันที ซึ่งโชคดีที่ได้ทำประกันชีวิต และใช้สิทธิประกันชีวิตจ่ายค่ารักษาทั้งหมดประมาณ 5 ล้านบาท หลังจากรักษาหายก็ต้องดูแลร่างกายตัวเอง และต้องมาเช็กอัพร่างกาย พบแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสามารถรักษาได้ทุกสิทธิประโยชน์ 3 กองทุนสุขภาพ ประกอบด้วย ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ระบบประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ

ครอบคลุมการรักษาทั้งสิ้น และในกลุ่มของคนไข้ไม่ตอบสนองการรักษาได้มีการพัฒนายาและวิธีการรักษาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนไข้มากขึ้น โดยผลการรักษาดีในระดับหนึ่ง แต่ต้องดูแลตัวเองสม่ำเสมอและมาตามนัดแพทย์ทุกครั้ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ธ.ก.ส. เคาะเริ่มโอนเงินไร่ละ 1,000 ช่วยเหลือชาวนา 1-4 ก.ย.นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'อนุทิน' ย้ำยึดเงื่อนไขปชน. เปิดเพลง'เชื่อฉัน' หลังเจอถามพรรคส้มลังเล

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ชัยวุฒิ' เผยยังไม่คุยภท.'ลุงป้อม' คุมมั่นคง-กลาโหม ยันพร้อมหนุน'อนุทิน'

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก.ล.ต.สั่ง CIG แจงลงทุนหมืองทองแคนาดา มูลค่า 435 ลบ.- เพิ่มทุน 125 ลบ. ภายใน 4ก.ย.

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

Apollo Neuro™ แกดเจ็ตเพื่อการนอน ลดอัตราการตื่นกลางดึก

BT Beartai

"มือชา" ปัญหาที่พบได้บ่อย ในวัยกลางคน สาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีป้องกันและรักษาหรือไม่? เช็กเลย!

TNN ช่อง16

รู้จักเชื้อแบคทีเรีย ซาลโมเนลลา ตัวการอาหารเป็นพิษที่พบบ่อยที่สุด

Amarin TV

อย่ามองข้าม 6 สัญญาณที่ร่างกายฟ้องว่าระบบเผาผลาญของเรากำลังช้าลง

Amarin TV

มั่นใจ 'กัญชาทางการแพทย์' ไม่กระทบแม้เปลี่ยนขั้วการเมือง

ฐานเศรษฐกิจ

บำรุงราษฎร์ สานต่อโครงการ ‘เด็ก-เด็ก ปลอดยุง’ ปีที่ 2

The Reporters

บอร์ด สปสช. เคาะเพิ่มหน่วยบริการ ม.3 'ผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม'

ฐานเศรษฐกิจ

กรมแพทย์แผนไทยฯย้ำ 'กัญชาทางการแพทย์' จำกัด 5 กลุ่มอาการ

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...