เปิดแฟ้มครม.22ก.ค.68จ่อเคาะชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีวาระสำคัญที่ต้องจับตา โดยเฉพาะการพิจารณารายชื่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ซึ่งสัปดาห์ก่อนยังไม่ได้เข้าสู่วาระการประชุม โดยในวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ครม.
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอชื่อ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ แทน นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยนายวิทัยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
วาระอื่น ๆ ที่น่าจับตา
นอกจากการพิจารณาชื่อผู้ว่า ธปท. แล้ว ยังมีวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและนโยบายสาธารณะ ดังนี้:
แรงงานข้ามแดน: กระทรวงแรงงานเสนอแนวทางผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาเข้าทำงานในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
งบประมาณปี 2569: สำนักงบประมาณเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี
มลพิษฝุ่นละออง: กระทรวงทรัพยากรฯ เสนอแผนขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5” ฉบับใหม่ ปี 2568–2570
อนุสัญญามินามาตะ: ขอขยายการใช้ผลิตภัณฑ์เติมปรอท ภายใต้กรอบอนุสัญญา
การเวนคืนที่ดิน: กระทรวงคมนาคมเสนอแนวทางคำนวณค่าทดแทนกรณีที่ดินถูกเวนคืน
ความโปร่งใสรัฐ: ป.ป.ช. เสนอรายงานผลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ (ITA) ปีงบประมาณ 2567
ผลการสลายการชุมนุม: สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานผลพิจารณาญัตติสภาฯ กรณีควบคุมฝูงชนเหตุชุมนุมตั้งแต่ปี 2563–2565
ปัญหายาสูบตกต่ำ: กระทรวงการคลังรายงานผลพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาราคายาสูบ–ยาเส้น
ความร่วมมือระหว่างประเทศ: กระทรวงต่างประเทศเสนอให้ ครม. เห็นชอบปฏิญญาร่วมไทย–อินเดีย และการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตจากคาซัคสถานและบราซิล
การแต่งตั้งและบริหารราชการ
แต่งตั้งข้าราชการ: แต่งตั้งนายพลจักร นิ่มวัฒนา ดำรงตำแหน่งระดับทรงคุณวุฒิ
รักษาการ รัฐมนตรี: แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน รมว.ดีอีเอส และ รมว.พาณิชย์
การประชุม ครม. วันนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นเวทีตัดสินใจผู้บริหารการเงินของชาติ หากยังสะท้อนทิศทางนโยบายเศรษฐกิจ แรงงาน และสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลในระยะใกล้และระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านงบประมาณประจำปี และช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของแรงกดดันเศรษฐกิจโลก.