โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผบ.ตร.สั่งตำรวจสนับสนุนส่วนหน้า ปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่และอพยพประชาชน

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตำรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมพร้อมสนับสนุนส่วนหน้า กำชับการปฏิบัติตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง บูรณาการทุกภาคส่วนรักษาอธิปไตยไทย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจภูธรภาค 2, ตำรวจภูธรภาค 3, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เตรียมความพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านความมั่นคงภายใต้สถานการณ์ภัยคุกคามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กำชับตามแผนปฏิบัติการ “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังและการอพยพประชาชน” ยกระดับการรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ (แผนกรกฎ/๖๗) โดยมุ่งหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสอดคล้องกับภารกิจด้านความมั่นคงของรัฐ และสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที โดยมีสาระสำคัญด้านอำนาจหน้าที่ของตำรวจตามแผนดังกล่าว ดังนี้

1. ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน : ตำรวจมีหน้าที่หลักในการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ส่วนหลัง ทั้งในเขตต้นทาง เส้นทาง และปลายทางของการอพยพประชาชน โดยจะดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และสายตรวจเฝ้าระวังตลอดแนวเส้นทาง ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในจุดยุทธศาสตร์ รวมถึงการสนับสนุนกำลังร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นในการควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม

2. ด้านการอพยพประชาชนและการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง : ตำรวจรับผิดชอบในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในเส้นทางอพยพ การควบคุมการเคลื่อนย้ายให้เป็นไปอย่างมีระเบียบ ปลอดภัย และรวดเร็ว รวมถึงการจัดกำลังเพื่อดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก นักเรียน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ ตลอดกระบวนการอพยพ ตลอดจนการดูแลความปลอดภัยในศูนย์พักพิงและจุดรวมพล

3. ด้านการวิเคราะห์สถานการณ์และการสืบสวนหาข่าว : ตำรวจมีหน้าที่วิเคราะห์สถานการณ์เชิงรุกร่วมกับหน่วยข่าวกรองและหน่วยงานความมั่นคง ทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อประเมินแนวโน้มภัยคุกคาม และระบุพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งดำเนินการสืบสวนหาข่าวเพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล หรือกิจกรรมที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของพื้นที่ ประสานความร่วมมือกับกองทัพบก, สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, กระทรวงการต่างประเทศ และทุกฝ่าย

4. ด้านการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมแผน : เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเตรียมกำลังพลและทรัพยากรให้พร้อม ทั้งด้านอุปกรณ์การสื่อสาร ยานพาหนะ เครื่องมือช่วยชีวิต และระบบสื่อสารฉุกเฉิน รวมถึงดำเนินการฝึกซ้อมแผนในรูปแบบ Table Top Exercise (TTX) และ Field Simulation Exercise เพื่อทดสอบความพร้อมและสร้างความเข้าใจร่วมกับภาคีเครือข่าย

5. ด้านการสื่อสารสาธารณะและการประชาสัมพันธ์ : ตำรวจมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารความเสี่ยงต่อประชาชนในพื้นที่ โดยใช้ช่องทางที่เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น เช่น หอกระจายข่าว วิทยุชุมชน สื่อออนไลน์ และการลงพื้นที่พบประชาชนผ่านกิจกรรม “Stop Walk Talk” เพื่อชี้แจงสถานการณ์และสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของภาครัฐ โดยขอความร่วมมือในการไม่เผยแพร่ภาพที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง

6. ด้านการบังคับใช้กฎหมายและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน : ในการควบคุมสถานการณ์ ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักนิติธรรม หลักสิทธิมนุษยชน และความได้สัดส่วนของการใช้อำนาจรัฐ ห้ามเลือกปฏิบัติหรือใช้กำลังเกินกว่าเหตุ พร้อมจัดทำเอกสารบันทึกการควบคุมตัวหรือการตรวจค้นอย่างเป็นระบบและตรวจสอบได้ การสอบสวนภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายและบทสรุปของสถานการณ์

7. ด้านการประสานงานและบูรณาการความร่วมมือ : ตำรวจต้องทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประสานงานกับฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน โดยจัดตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ และศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีเอกภาพและรวดเร็วในทุกสถานการณ์

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังนี้ และการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด จะสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของตำรวจในฐานะหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงที่ต้องมีขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อม รับมือ และฟื้นฟูสถานการณ์ได้อย่างครอบคลุม โดยการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจภายใต้แผนนี้เน้นความเป็นมืออาชีพ ความสอดคล้องกับภารกิจ อำนาจและความชัดเจนของหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และการปฏิบัติที่คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งถือเป็นกรอบการทำงานที่สำคัญยิ่งในบริบทชายแดนที่มีความอ่อนไหว ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผบ.ตร.สั่งตำรวจสนับสนุนส่วนหน้า ปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่และอพยพประชาชน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

สมาคมข่าวออนไลน์ ย้ำสมาชิกยึดแนวปฏิบัติ รายงานข่าวชายแดนไทย-กัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ เห็นพ้องไม่ลดงบซื้ออาวุธ แนะจัดสรรสอดรับสถานการณ์

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพภาค 2 รายงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารกัมพูชา เสียชีวิต 100 นาย

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธปท.กำชับแบงก์เร่งช่วยลูกค้ากระทบ ความไม่สงบไทย-กัมพูชา

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

PTG เปิด GIGA EV ปั๊มชาร์จอีวีที่แรก เสริมบริการ ‘พันธุ์ไทย-ซับเวย์‘ ครบวงจร

ประชาชาติธุรกิจ

'จตุพร' สั่งพาณิชย์คุมราคาห้ามขาด-ห้ามแพง ประชาชนเข้าถึงเหตุพายุวิภา

ประชาชาติธุรกิจ

Booking.com เผยเทรนด์ท่องเที่ยวกลางปี‘68 คนไทยพร้อมเปย์-พร้อมเที่ยว

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...