“พาณิชย์”จับมือ“ร้านศรณ์” มิชลิน 3 ดาว นำวัตถุดิบ GI รังสรรค์เมนูอาหาร

เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้ายกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เปิดตัวโครงการ “GI ศาสตร์แห่งถิ่น สู่ศิลป์บนจาน” จับมือร้านศรณ์ มิชลิน Fine Dining รางวัล 3 ดาว แห่งเดียวในไทย รังสรรค์เมนูสุดพิเศษจากวัตถุดิบ GI พร้อมเชิญนักชิม ผู้มีชื่อเสียง กูรูด้านอาหาร ร่วมลิ้มรส และถ่ายทอดประสบการณ์ ก่อนมีแผนขยายไปยังร้านดังอีก 5 ร้าน

น.ส.นุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้จัดโครงการ “GI ศาสตร์แห่งถิ่น สู่ศิลป์บนจาน” โดยได้ร่วมมือกับเชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ เจ้าของร้าน ศรณ์ (Sorn) ร้านอาหารใต้ระดับ Fine Dining และเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของโลก ที่สามารถคว้ารางวัล 3 ดาว จากมิชลิน ในการนำสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากทั่วประเทศ มาใช้เป็นวัตถุดิบในการรังสรรค์เมนูอาหาร เพื่อสร้างแตกต่าง และความโดดเด่นให้กับอาหาร

สำหรับอาหารที่นำวัตถุดิบ GI มารังสรรค์ อาทิ เมนูเปิดลิ้นที่มีส่วนผสมของแป้งสาคูต้นพัทลุง จานมหาสมุทรใช้กุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต ข้าวยำรวมพืชพรรณผักที่มีส่วนผสมของส้มโอทับทิมสยามปากพนังช่วยเพิ่มรสชาติและสีสัน เมนูของหวานที่นำเสนอมังคุดเขาคีรีวงไว้อย่างน่าสนใจ เป็นต้น พร้อมชูรสชาติด้วยพริกไทยตรัง และขมิ้นชันสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ กรมได้นำนักชิมและกูรูด้านอาหารชื่อดังของเมืองไทย อาทิ เชฟอิน ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ เชฟและนักสร้างคอนเทนต์ด้านอาหาร (food influencer) ที่มีชื่อเสียงจากแพลตฟอร์ม TikTok และเป็นผู้ผลักดันอาหารพื้นถิ่นจังหวัดระนอง คัตโตะ อารมณ์ โพธิ์หาญรัตนกุล นักร้องนำวงลิปตา ที่ผลิตคอนเทนต์รีวิวอาหารอย่างต่อเนื่อง คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา เจ้าของเว็บไซต์ชื่อดัง The Cloud ซี-เอมี่ นักแสดงและพิธีกรในรายการ “เอมิกาเข้าครัว” เป็นต้น มาร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสอาหารไทยระดับ Fine Dining และถ่ายทอดประสบการณ์สู่ผู้ชมในโลกออนไลน์ เพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมอาหารไทย รวมถึงสร้างการรับรู้สินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

“นอกจากร้านศรณ์แล้ว กรมมีแผนที่จะร่วมมือกับร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอีก 5 ร้าน ได้แก่ ร้านบ้านเทพา ร้าน Blue Elephant ร้านบ้านไอซ์ ร้าน North Restaurant และร้านครัวบ้านอิน ในการนำสินค้า GI มาเป็นวัตถุดิบในเมนูประจำร้านเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกว่า 3 เดือน โดยมั่นใจว่ากิจกรรมดังกล่าว นอกจากจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า GI ไทยแล้ว ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบอาชีพด้านอาหารหันมาสนใจและเกิดไอเดียในการนำวัตถุดิบ GI จากชุมชนท้องถิ่นไปสร้างสรรค์เมนูอาหารที่มีคุณภาพ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการดึงทรัพยากรที่มีศักยภาพมาเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย”น.ส.นุสรากล่าว