ส.อ.ท.ชี้อธิปไตย ประชาชนปลอดภัยสำคัญสุด หวังสหรัฐไม่นำมารวมกัน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐมีการคุยกับผู้นำรัฐบาลทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อขอให้มีการหยุดยิง และยุติสงคราม โดยให้เหตุผลถึงกรณีที่กำลังเจรจาการค้ากับทั้งสองประเทศ ที่ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดก็ตาม หากยังคงสู้กันอยู่ โดยยอมรับว่า คงไม่สามารถห้ามแนวคิดของทรัมป์ได้
แต่เรื่องของอธิปไตย ชีวิต ความปลอดภัยของประชาชน และทรัพย์สินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเรื่องของการเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของสหรัฐ เป็นเรื่องระหว่างไทยกับสหรัฐ และของประเทศคู่ค้าทั่วโลกของสหรัฐ ซึ่งประเด็นสำคัญเวลานี้คือการปกป้องอธิปไตย ดังนั้น จึงไม่ควรนำมาเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่
“อธิปไตย ชีวิต ความปลอดภัยสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด หากไม่มีอธิปไตย หรือความมั่นคง เศรษฐกิจก็แย่อยู่ดี โดยหวังว่าสหรัฐฯจะไม่นำมาเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะไทยก็ต้องปกป้องอธิปไตย”
ทั้งนี้ ยกตัวอย่างกรณีความขัดแย้งระหว่างฮามาสและอิสราเอล ที่ฮามาสเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน และอิสราเอลได้ตอบโต้เพื่อปกป้องตนเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทุกประเทศได้ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศเป็นอันดับแรก ซึ่งเชื่อว่าแม้กระทั่งสหรัฐเองก็จะดำเนินการเช่นเดียวกันหากเกิดเหตุการณ์รุกรานขึ้นในประเทศ
อย่างไรก็ดี ต้องขอชื่นชมบทบาทของทรัมป์ในฐานะผู้นำโลกที่พยายามห้ามปรามไม่ให้ประเทศต่างๆ ทำสงครามกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ย้ำว่าปัจจัยสำคัญคือความจริงใจของทั้งสองฝ่าย โดยภายหลังจากที่ทรัมป์ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทางฝั่งกัมพูชากลับยังไม่หยุดรุกรานประเทศไทย
และยังมีเสียงระเบิดและปืนยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้ามืด ดังนั้น จึงต้องการฝากให้สหรัฐใช้มาตรการต่างๆ กดดันฝ่ายที่เริ่มก่อนและไม่ยอมยุติการโจมตี ทั้งๆ ที่ได้รับปากไปแล้วก็ตาม
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า ไทยเป็นประเทศที่รักสงบ ไม่เคยรุกรานใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมารุกรานเช่นกัน และพร้อมที่จะกลับมาสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี แต่การเจรจาจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับความจริงใจของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่แค่การพูดจาแล้วไม่ปฏิบัติตาม โดยทุกครั้งประเทศไทยไม่ใช่ฝ่ายที่เริ่มก่อน แต่การที่กัมพูชายิงและทำร้ายเด็ก ประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมถึงโรงพยาบาล ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร ทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายนั้นเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
ดังนั้น หากกัมพูชายังไม่ยอมหยุด ประเทศไทยก็ไม่สามารถหยุดได้ เพราะนี่คือการปกป้องอธิปไตย และชีวิตทรัพย์สินของคนไทย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง ทหาร และประชาชนทุกคน
“ภาคเอกชนขอส่งกำลังใจให้กับทหารในแนวรบ ฝ่ายความมั่นคง และประชาชนทุกคนที่กำลังเผชิญสถานการณ์ พร้อมขอให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย และส่งกำลังใจเป็นพิเศษให้กับผู้บริสุทธิ์และพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และต้องอพยพจากเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว”