โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

จี้รัฐ เร่งแก้ปัญหาหลังพบ “พยาธิในผักสด” ในตลาดสด กทม. สูงถึง 90%

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากงานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ที่ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างผัก 200 ตัวอย่าง จากตลาดสดใน 5 เขต ได้แก่ ห้วยขวาง คลองเตย ปทุมวัน จตุจักร และพระนคร พบว่า มากถึง 77% ของผักสดมีพยาธิปนเปื้อน โดยเฉพาะในเขตห้วยขวางและจตุจักรซึ่งพบอัตราปนเปื้อนสูงถึง 90%

ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ผักสดอาจเป็นแหล่งสำคัญของการติดเชื้อปรสิตในคน ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการด้านสุขอนามัยอาหารที่เข้มงวดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีประกาศควบคุมเรื่องพยาธิปนเปื้อน ผู้บริโภคจึงต้องป้องกันตัวเอง

ด้วยการล้างผักให้สะอาดอย่างทั่วถึงก่อนบริโภค เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ อีกทั้ง ด้านสาธารณสุขควรพิจารณาให้การรักษาเชิงป้องกันด้วยยาถ่ายพยาธิ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างน้อยปีละครั้ง

ขณะที่ เรื่องสารเคมีตกค้าง ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีความเสี่ยงเรื่อง อาหารปลอดภัย ไม่แพ้กัน โดยการสุ่มตรวจผักนำเข้าที่ด่านเชียงของ โดยความร่วมมือของสภาผู้บริโภค คณะอนุกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค และ Thai-PAN พบสารพิษเกินมาตรฐาน 7 ใน 10 ตัวอย่าง หรือ 70 % ของผักที่ตรวจมีสารพิษเกินมาตรฐาน และมีการตรวจพบสารอันตรายร้ายแรงอย่าง คลอร์ไพริฟอส ในระดับสูงถึง 0.78 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งจัดเป็นวัตถุอันตรายประเภท 4 ส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ หากพบสารพิษตกค้างในผักเกินค่าที่กฎหมายกำหนด ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่าย มีสิทธิเจอโทษตามกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 460 พ.ศ. 2568 ได้กำหนดค่าปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดในอาหารและผักเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

หากพบว่าผักมีสารพิษเกินค่ากำหนด ถือว่าผิดกฎหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องอาจถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับกรณีว่าอาหารนั้น ไม่บริสุทธิ์หรือผิดมาตรฐาน

แม้ภาคประชาชนจะลุกขึ้นมาเฝ้าระวังผักปนเปื้อนอย่างแข็งขัน แต่ฝั่งผู้ประกอบการเองก็ไม่นิ่งนอนใจ ตัวอย่างเช่น ตลาดผักผลไม้แห่งหนึ่งที่มีมาตรการเข้มงวด ด้วยการสุ่มตรวจผักผลไม้จากร้านค้าที่มาขายทุกวัน และลงโทษผู้ค้ารายใดที่จำหน่ายสินค้าผิดมาตรฐาน

แต่ถึงแม้จะมีมาตรการเฝ้าระวังในระดับพื้นที่ การตรวจสอบเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงแนวรับในปลายน้ำเท่านั้น ส่วนต้นทางซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปนเปื้อน กลับยังขาดการควบคุมอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือตรวจสอบที่ทันสมัย หรือระบบจัดการที่สามารถเรียกคืนสินค้าได้ทันทีเมื่อพบความเสี่ยง นี่จึงทำให้ผักผลไม้ที่ปนเปื้อนสารพิษหรือพยาธิ ยังคงเล็ดลอดเข้าสู่ตลาด และถึงมือผู้บริโภค โดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้า

ทั้งนี้สภาผู้บริโภคจึงเสนอให้รัฐ เร่งจัดตั้งระบบ “แจ้งเตือน–เรียกคืน” สินค้าไม่ปลอดภัย ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางการผลิตไปจนถึงมือผู้บริโภค พร้อมกำหนดให้สินค้านำเข้าทุกชนิดต้องมี ฉลากภาษาไทยชัดเจน เพื่อให้สามารถติดตามแหล่งที่มาและเรียกคืนสินค้าออกจากตลาดได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดปัญหา เพราะในโลกที่ความเสี่ยงปนเปื้อนอาจซ่อนอยู่ในทุกคำ ระบบเตือนภัยที่รวดเร็วและแม่นยำ คือเกราะป้องกันผู้บริโภคอย่างแท้จริง

นายปรกชล อู๋ทรัพย์ อนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ กล่าวว่า สภาผู้บริโภคเน้นย้ำความสำคัญของ “ระบบแจ้งเตือน–เรียกคืน” สินค้าไม่ปลอดภัย จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ด่านศุลกากรเชียงของ พบว่า หน้าด่านยังขาดเครื่องมือที่ทันสมัยและระบบจัดการแบบเบ็ดเสร็จ

ทำให้ผักผลไม้ที่มีสารพิษเหล่านี้หลุดเข้าสู่ตลาดบริโภคโดยไม่มีการแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที และหากสินค้าใดหลุดเข้าไปในตลาดแล้ว เราต้องมีระบบที่ติดตามและเรียกคืนจากผู้บริโภคได้ทันที นี่คือหัวใจสำคัญของการจัดการผักผลไม้ที่ไม่ปลอดภัยในท้องตลาดในประเทศ เพื่อให้การปกป้องสุขภาพประชาชนเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ททท.ผนึกแอตต้า โรดโชว์ 3 เมืองในจีน ปั้มนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย

19 นาทีที่แล้ว

ชายแดนเดือด! ปะทะไทย-กัมพูชาหลายจุด ทิ้งทวนก่อนบรรลุข้อตกลงหยุดยิง

58 นาทีที่แล้ว

หยุดยิงเที่ยงคืน ! ไทย–กัมพูชาบรรลุดีลกลางอาเซียน ฟื้นสัมพันธ์ทหาร–ตั้งทีมสังเกตการณ์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“คยปท.” บุกทำเนียบฯ พรุ่งนี้ ร้องแก้ปัญหาราคาปาล์ม ยาง ผวาภาษีทรัมป์ทุบราคาตกต่ำ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่นๆ

‘นิรันดร์’นวัตกรรมเพื่อสังคม ปฏิวัติงานดูแลผู้สูงวัย ในยุคดิจิทัล

กรุงเทพธุรกิจ

“สมศักดิ์” เตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วย หวั่นกัมพูชาใช้อาวุธพิสัยไกล

ฐานเศรษฐกิจ

แรงงานจัดโครงการบรรเทาผู้ประกอบการ-ลูกจ้าง ที่ประสบภัยพาวิภา -

กรุงเทพธุรกิจ

กัมพูชาโจมตี 'สถานพยาบาล' เสียหายหนัก 3 แห่ง ต้องสร้างใหม่

กรุงเทพธุรกิจ

อัปเดต 09.00 น. ปิดรพ.ทั้งหมด 12 แห่ง จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

กรุงเทพธุรกิจ

ระวัง 8 วัตถุดิบในบ้านซ่อนสารพิษ กินผิดชีวิตเปลี่ยนทันที

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...