ไทยรับเจ้าภาพ CWI 2026 หนุนเพื่อนหญิงพลังหญิง สู่ฮับผู้ประกอบการสตรีเพื่อสังคมเอเชีย

ประเทศไทยเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในเวทีผู้ประกอบการสตรีระดับนานาชาติ ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงาน ‘Cartier Women’s Initiative Awards 2026’ ที่จะจัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นงานสำคัญระดับโลกที่ยกย่องผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน

‘วินจี ซิน’ ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการและกิจกรรมของ Cartier Women’s Initiative (CWI) เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก แต่ยังแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของโครงการในการขยายบทบาทและสนับสนุนระบบนิเวศของผู้ประกอบการเพื่อสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นรูปธรรม

“เรามองว่าประเทศไทยมีความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความหลากหลายของผู้ประกอบการ และความตื่นตัวในเรื่องความยั่งยืน การจัดงานในปี 2026 ที่กรุงเทพมหานคร จะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของนานาประเทศในการสนับสนุนธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อสังคม” ซินกล่าว

Cartier Women’s Initiative ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 เพื่อสนับสนุนผู้หญิงผู้ก่อตั้งและดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมมาตลอด 18 ปี โดยโครงการเปิดรับผู้สมัครจากทั่วโลก ไม่จำกัดประเภทธุรกิจ ขอเพียงมีเจตจำนงในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันโครงการสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงไปแล้วกว่า 330 ราย จาก 66 ประเทศ มอบเงินทุนรวมกว่า 13.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่มีสมาชิกมากกว่า 500 คนทั่วโลก

“เราไม่ได้มองแค่เรื่องรางวัลหรือเงินทุน แต่เรากำลังสร้างระบบสนับสนุนระยะยาว ที่ผู้หญิงสามารถเข้าถึงความรู้ ทักษะ และเครือข่ายระดับโลก เพื่อขยายผลกระทบเชิงบวกในสิ่งที่เธอกำลังทำ” ซินย้ำ

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้ขยายขอบเขตการสนับสนุนออกเป็น 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1. การมอบรางวัล 2. การสนับสนุนทางการเงิน 3. การสร้างเครือข่าย และ 4. การแบ่งปันแนวคิดของผู้นำ โดยหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่สำคัญคือการเปิดตัว CWI Loan Fund ร่วมกับองค์กร Beneficial Returns เพื่อมอบเงินทุนเพิ่มเติมแก่ผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้พวกเขาสามารถขยายกิจการได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการสนับสนุนในระยะยาวของโครงการ

สำหรับในปี 2025 ทาง CWI เตรียมจัดพิธีมอบ Impact Awards ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการที่ยังคงดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมอย่างมีนัยสำคัญ โดยแบ่งรางวัลออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการสร้างโอกาส ผู้ได้รับรางวัลแต่ละรายจะได้รับเงินสนับสนุน 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโอกาสเข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาทักษะผู้นำตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อยกระดับศักยภาพและขยายอิทธิพลเชิงบวกของธุรกิจให้ไกลยิ่งขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จากผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นปี 2023–2024 สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของโครงการได้อย่างชัดเจน โดย 97% ของผู้เข้าร่วมมีความมั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้น 94% พัฒนาทักษะด้านธุรกิจ 91% พัฒนาทักษะการสื่อสาร 86% มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น 82% พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ และ 100% รู้สึกถึงความเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน CWI

ในอีกแง่มุมหนึ่ง ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจจาก Global Entrepreneurship Monitor (GEM) ที่ระบุว่า ปัจจุบันมีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ประกอบการทั่วโลกที่เป็นผู้หญิง ขณะที่ผู้ประกอบการหญิงที่ได้รับเงินลงทุนสนับสนุนยังมีสัดส่วนไม่ถึง 2% ของมูลค่าการลงทุนรวมในธุรกิจสตาร์ตอัปทั่วโลก

รวมถึงข้อมูลจาก McKinsey & Company ที่สนับสนุนแนวคิดข้างต้น โดยพบว่าบริษัทที่มีความหลากหลายทางเพศในระดับบริหารมีแนวโน้มที่จะทำกำไรมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 25% ขณะที่ UN Women รายงานว่า หากเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในตลาดแรงงานให้เทียบเท่ากับผู้ชาย GDP โลกจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2025 เหล่านี้สะท้อนให้เห็นช่องว่างเชิงโครงสร้างที่ยังคงมีอยู่ ทั้งยังตอกย้ำว่าความเสมอภาคทางเพศไม่ใช่เพียงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน แต่ยังเป็นรากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับเศรษฐกิจโลก ซินจึงเห็นว่า CWI เป็นกลไกสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและเสริมพลังให้ผู้หญิงสามารถเติบโตในโลกธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

“การลงทุนในผู้หญิงไม่ใช่แค่เรื่องของความเท่าเทียม แต่เป็นการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมมากขึ้น หลายงานวิจัยชี้ว่าธุรกิจที่นำโดยผู้หญิงมีแนวโน้มจะนำกำไรกลับไปสู่ชุมชน และสร้างผลกระทบในระดับรากฐานอย่างแท้จริง” ซินกล่าว

พร้อมเสริมว่าในอนาคต โครงการจะเดินหน้าขยายบทบาทในระดับภูมิภาค โดยเน้นการร่วมมือกับเครือข่ายท้องถิ่นเพื่อให้การสนับสนุนสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการที่อาจถูกมองข้ามจากระบบทุนกระแสหลัก เนื่องจากมองว่า ปัจจุบันโลกธุรกิจไม่ได้วัดความสำเร็จจากเพียงแค่ตัวเลข แต่ยังรวมถึงความสามารถในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

โครงการ Cartier Women’s Initiative ได้กลายเป็นต้นแบบสำคัญของการสนับสนุนผู้หญิงให้ลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านโมเดลธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อส่วนรวม และเมื่อประเทศไทยเตรียมก้าวสู่บทบาทเจ้าภาพ CWI Awards 2026 นี่จึงไม่ใช่เพียงโอกาสในการจัดงานระดับโลก แต่เป็นการส่งสัญญาณว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย พร้อมเป็นศูนย์กลางของผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่ที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำ

“ธุรกิจเพื่อสังคมที่นำโดยผู้หญิงไม่ใช่แค่เรื่องของการทำดี แต่มันคือการสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ใส่ใจผู้คนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางที่โลกไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในอนาคต” ซินกล่าวทิ้งท้าย