ศบ. ทก เปิดแนวทางการใช้สื่อช่วงความขัดแย้ง ไทย – กัมพูชา
สำนักงาน กสทช. และผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทุกช่องร่วมหารือแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในช่วงสถานการณ์ ไทย - กัมพูชา นำโดยโฆษกกระทรวงกลาโหม โฆษกกองทัพไทย โฆษกกองทัพบก กรมสารนิเทศ กรมปภ. กระทรวงดีอี และกระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. พลโท ณัฐพงษ์ เพราแก้วกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ศบ. ทก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างไทยกัมพูชา กองทัพไทยต้องการจะมีข้อความเดียวที่ต้องการจะสื่อเพื่อป้องกันการเกิดข่าวปลอม หรือข่าวที่ไม่เกิดประโยชน์ ลดทอนหรือบั่นทอนจิตใจของกำลังพลรวมถึงประชาชนไทยทุกคนในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤติ
โดยอยากเชิญชวนสื่อมวลชนไทย รวมถึงประชาชนไทยทุกคนที่ใช่สื่อในทุกรูปแบบสื่อสารไปในทิศทางเดียวกันด้วยแนวคิด “One Team One Voice One Massage” พร้อมขอความร่วมมือ ประชาชนไทยทุกคนใช้สื่อด้วยความระมัดระวังตามเงื่อนไขของแนวปฏิบัติการใช้สื่อในช่วงเกิดภาวะวิกฤติ ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอความร่วมมือดังต่อไปนี้
กองบัญชาการกองทัพไทย
กองทัพไทยคือการปฏิบัติการร่วมของกองทัพทุกภาคส่วน ขอให้มั่นใจว่าการทำงานของกองทัพทุกภาคส่วนมีการประสานงานกันอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดข้อยุติของความขัดแย้งในครั้งนี้โดยเร็วที่ตามเงื่อนไขที่ประเทศไทยเป็นผู้กำหนด
โดยระหว่างความขัดแย้งนี้ ขอความร่วมมือไม่เปิดเผยภาพการสูญเสียของกำลังพลไทย ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บหรือการสูญเสียชีวิต
ขอความร่วมมือ ไม่รายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตที่เป็นกำลังพลไทยที่เกิดขึ้น ณ จุดยุธศาสตร์สำคัญ เพราะอาจทำให้ศัตรูสามารถประเมินกำลังพลที่เหลือของไทย ณ จุดยุทธศาสตร์ได้
การนำเสนอข่าวสารไปจนถึงสื่อต่างๆ อยากให้เป็นข้อมูลความจริง หากจะใส่อารมณ์ลงไป สามารถใส่อารมณ์และความรู้สึกที่ เป็นประโยชน์ ต่อฝ่ายไทยเท่านั้น
ปฏิบัติการทุกอย่างของกองทัพทุกภาคส่วนต้องการให้ความขัดแย้งสิ้นสุดเร็วที่สุดตามความต้องการของไทย
ช่วยนำเสนอจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในครั้งนี้ โดยย้ำว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ข้อมูลผู้บาดเจ็บทั้งพลเรือนและทหารจะถูกป้อนข้อมูลในเพจ กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งจะมีการกลั่นกรองก่อนเวลา 19.00 น. ทุกวันจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ
กองทัพบก
อยากให้สื่อและทุกคนที่นำเสนอภาพสื่อทุกช่องทาง ดูวัตถุประสงค์ในการนำเสนอสื่อทุกครั้ง เช่นถ้าสื่อนั้นก่อให้เกิดความหดหู่ไม่เป็นขวัญกำลังใจให้กำลังพลไทย อยากให้ละเว้น อยากให้สร้างข่าวที่เป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลและคนไทยทุกคน
กองทัพเรือ
อยากให้ผู้ใช้สื่อทุกคน ให้กำลังใจกำลังพล ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง และขอให้ทุกคนตรวจสอบใช้ข้อมูลที่เป็นจริงเท่านั้น รวมถึงมูลเหตุของความขัดแย้งในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งภาคประชาชน ขอให้อธิบายที่มาของการเกิดเหตุทั้งหมดให้เป็ไปในลักษณะเดียวกัน
กองทัพอากาศ
ขอความร่วมมือห้ามเผยแพร่ภาพเครื่องบินรบของไทย ขณะ ออกจากกองบิน งดบินโดรนใกล้กองบิน งดโพสต์เกี่ยวกับศักยภาพกำลังทางอากาศ งดวิเคราะห์การโจมตีทางอากาศทุกรูปแบบ และงดการโพสต์หรือแชร์ภาพของนักบิน
ขอให้มั่นใจว่าทัพอากาศพร้อมปฏิบัติการเสมอ เป้าของทหารอากาศ คือยุทธวิธีทางทหารเท่านั้น
เครื่องบิน F16 สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องรออนุมัติจากอเมริกาตามที่ข่าวบางสื่อได้รายงานไปก่อนหน้านี้
ตำรวจ
พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนมีการยกระดับความปลอดภัย ช่วยเหลือด้านการอพยพอย่างเต็มที่ มีการจัดชุดสายตรวจลงพื้นที่เพื่อช่วยประชาชน อย่างเต็มที่
ยกระดับการดูแลพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการใช้โซเชียลยุยงปลุกปั่น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดอันตรายในพื้นที่ที่มีประชาชนกัมพูชาอาศัยอยู่ เพื่อป้องกันเหตุการทำร้าย หรือการกระทำที่ผิดกฏหมายทุกรูปแบบ
ถ้าเหตุต้องสงสัย พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อ 191 ทุกเวลา
กระทรวงต่างประเทศ
เฝ้าระวัง ชี้แจงเพื่อตอบโต้และพร้อมชี้แจงให้กับสมัชชาสหประชาชาติตลอด เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงที่ทางกัมพูชาเสนอต่อสหประชาชาติ
กระทรวงต่างประเทศทราบว่าการออกแถลงการณ์จากทางการจะมีความล่าช้า เนื่องจากให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงและความถูกต้องเป็นหลัก ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบทุกข้อเท็จจริงในเอกสารและแถลงการณ์จากทางการ อีกทั้งทุกตัวอักษรและทุกถ้อยคำที่ออกจากทางกระทรวงต่างประเทศ ถือเป็นข้อผูกมัดระหว่างประเทศ จึงต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อผชประโยชน์ของประเทศอย่างที่สุด
ขอย้ำว่าความขัดแย้งในขณะนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐต่อรัฐ มิใช่ระหว่างบุคคล และในปัจจุบันมีประชากรชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ขอให้ประชาชนชาวไทยเลี่ยงเหตุการที่ก่อให้เกิดความรุนแรงต่อประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง อพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งไปยังศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นส่วนสำคัญที่สุด
มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้ผู้อพยพในแต่ละพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 7 จังหวัดนำทีม ดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนที่ประสบภัยอย่างเต็มที่
กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บฝั่งพลเรือนสามารถติดตามได้จากกระทรวงสาธารณสุข โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการจะเปิดเผย
ระมัดระวังข่าวลือ ข่าวปลอม เช่นข่าวการแพร่ระบาดของโรคร้ายในศูนย์พักพิง ไปจนถึงภาพความรุนแรงที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้คนในประเทศ
ขอให้ประชาชนในพื้นที่ขัดแย้ง ตื่นตัวและติดตามข่าวจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องอย่างใกล้ชิด ส่วนประชาชนในพื้นที่ปกติ ขอให้ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติที่สุด
กระทรวงดีอี
ยกระดับการต่อต้านข่าวปลอมในศูนย์ Anti-fake news center โดยช่วยยืนยันข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน หรือข่าวที่ไม่ประสงค์จะเผยแพร่ สามารถใช้กระบวนการปิดกัน หรือ Take Down ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ หรือวิดีโอ ในทุกแพลตฟอร์ม
ศบ.ทก
จะมีการแถลงข่าวข้อมูลสำคัญในเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทุกวันเวลา 12.00 น.
ขอให้สื่อมวลชนใช้จรรยาบรรณในการนำเสนอข่าวสารมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยอยากขอความร่วมมืองดเว้นลงข่าวการวิเคราะห์และคาดเดาจากเหตุการที่เกิดขึ้น
เลี่ยงการใช้คำว่า ข้อพิพาท สงคราม แนะนำให้ใช้คำว่า ความตึงเครียด หรือพื้นที่ขัดแย้งแนวชายแดน