AI ช่วยงานไวขึ้นกว่า 60% ทุกประเภท ตั้งแต่งานเขียนถึงงานบริหารคน
เครื่องมือ AI กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานมากขึ้น บางองค์กรถึงขั้นบังคับใช้ในระบบการทำงานประจำวัน ข้อมูลล่าสุดก็ยิ่งตอกย้ำว่า มันไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่มีผลประสิทธิภาพในการทำงานที่จับต้องได้จริง ทุกวันนี้วัยทำงานคนรุ่นใหม่หลายคนใช้ Generative AI เข้ามาช่วยทำงานในหลากมิติหลายสายงาน
โดยเฉพาะในแง่ที่ว่ามันช่วยให้ทำงานเสร็จได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น ว่าแต่.. ที่บอกว่าช่วยให้งานเสร็จไวขึ้นนั้น จะไวแค่ไหนถ้าเทียบกับการที่มนุษย์ทำงานด้วยสองมือและหนึ่งสมองเองทุกขั้นตอน ?
ล่าสุด.. มีการสำรวจใหม่ที่ค้นพบว่า การทำงานโดยใช้ AI ช่วยงาน จะสามารถประหยัดเวลาได้มากกว่า 60% ไม่ว่าจะเป็นงานวิเคราะห์หรืองานที่ต้องใช้ทักษะมนุษย์ AI ก็ช่วยให้ทำงานเสร็จเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
AI ช่วยประหยัดเวลาทำงานเฉลี่ยกว่า 60% ในแทบทุกสายงาน
จากผลสำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 2024 ที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและธนาคารโลก ซึ่งได้สำรวจและวิจัยในกลุ่มตัวอย่างวัยทำงานอายุ 18 ปีขึ้นไป ในสหรัฐ จำนวน 4,278 คน เกี่ยวกับเวลาการทำงาน 18 ประเภท ตั้งแต่ต้นจนเสร็จว่า หากใช้ AI ช่วยทำงานงานจะเสร็จเร็วกว่าไม่ใช้ AI แค่ไหน?
ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันทำงาน 18 ประเภทดังกล่าว ได้เสร็จเร็วขึ้นจริง (โดยเปรียบเทียบระหว่างคนที่ใช้และไม่ใช้ AI) ผลลัพธ์ชัดเจนว่า AI ช่วยประหยัดเวลาได้เกิน 60% แทบจะทุกประเภทงาน เช่น การแก้ปัญหา (Troubleshooting) ลดเวลาได้ถึง 76%, การคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) ลดเวลาไป 74%, การเขียนโปรแกรมและออกแบบเทคโนโลยี ก็ประหยัดเวลาได้มากกว่า 70% เช่นกัน
ไม่เพียงแต่งานเชิงเทคนิค แม้แต่งานที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์โดยตรง เช่น งานด้านการสอนและให้คำแนะนำ (Instructing), งานด้านการบริหารคน (Personnel Management), การตัดสินใจ (Judgement and Decision-Making) ก็ลดเวลาทำงานลงได้ราว 60-70% เมื่อใช้เครื่องมือ AI เข้ามาช่วย
..นี่คือผลการสำรวจเปรียบเทียบเวลาทำงานของการงานบางประเภท (อย่างละเอียด) ของรายงานฉบับนี้ ว่า เอไอช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นจริง ได้แก่
การเขียน: ไม่ใช้ AI 80 นาที, ใช้ AI 25 นาที, ประหยัดเวลา 69%
การเรียนรู้เชิงรุก: ไม่ใช้ AI 76 นาที, ใช้ AI 26 นาที, ประหยัดเวลา 66%
การคิดวิจารณญาณ: ไม่ใช้ AI 27 นาที, ใช้ AI 102 นาที, ประหยัดเวลา 74%
การแก้ไขปัญหา: ไม่ใช้ AI 115 นาที, ใช้ AI 28 นาที , ประหยัดเวลา 76%
การตัดสินใจ: ไม่ใช้ AI 79 นาที, ใช้ AI 28 นาที, ประหยัดเวลา 65%
การจัดการงานวัสดุ: ไม่ใช้ AI 92 นาที, ใช้ AI 28 นาที, ประหยัดเวลา 70%
คณิตศาสตร์: ไม่ใช้ AI 108 นาที, ใช้ AI 29 นาที, ประหยัดเวลา 73%
การจัดการเวลา: ไม่ใช้ AI 77 นาที, ใช้ AI 29 นาที, ประหยัดเวลา 62%
การแก้ปัญหาซับซ้อน: ไม่ใช้ AI 122 นาที, ใช้ AI 30 นาที, ประหยัดเวลา 75%
การสอน: ไม่ใช้ AI 93 นาที, ใช้ AI 31 นาที, ประหยัดเวลา 67%
การบริหารบุคลากร: ไม่ใช้ AI 103 นาที, ใช้ AI 32 นาที, ประหยัดเวลา 69%
การเขียนโปรแกรม: ไม่ใช้ AI 129 นาที, ใช้ AI 33 นาที, ประหยัดเวลา 74%
AI เร่งความเร็วงานได้จริง ทดแทนแรงงานมนุษย์ในงานบางขั้นตอนได้ (Task)
แม้หลายคนจะมองว่า AI คือสิ่งน่ากังวลที่เข้ามาแทนแรงงานมนุษย์ในบางงาน แต่ข้อมูลชุดนี้กลับสะท้อนอีกแง่มุมหนึ่ง คือ เมื่อมนุษย์ใช้ AI อย่างเหมาะสม จะสามารถทำงาน (แทบทุกงาน) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น การเขียน (Writing) จากเดิมใช้เวลาเฉลี่ย 80 นาที ลดเหลือเพียง 25 นาที เมื่อใช้ AI ขณะที่งานด้าน คณิตศาสตร์ การวิเคราะห์ระบบ และการบริหารจัดการ ก็ลดเวลาลงได้ มากกว่า 1 ชั่วโมง
ไม่เพียงเท่านั้น ผลสำรวจชุดนี้ยังพบด้วยว่า การใช้งานโมเดลภาษาใหญ่ LLMs (โมเดลพื้นฐานการประมวลผลของ Generative AI ซึ่งเรียนรู้ผ่านกระบวนการ Deep Learning) ในที่ทำงานของผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 18 ปีขึ้นไป เพิ่มจาก 30% ในเดือนธันวาคม 2024 เป็นมากกว่า 43% ในช่วงมีนาคม-เมษายน 2025
หากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป แน่นอนว่าผลดีจาก AI จะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำงานรายบุคคลอีกต่อไป แต่จะขยายไปถึงระดับ องค์กร และอาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจในวงกว้างในระยะยาว
อ้างอิง: Visualcapitalist, The Labor Market Effects of Gen AI