“สหรัฐ” จ่อเก็บค่า Visa Integrity Fee ขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ กระทบวีซ่าท่องเที่ยว-นักเรียนต่างชาติ
"สหรัฐ" จ่อเก็บค่า Visa Integrity Fee ขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ เริ่มปีงบฯ 2568 โดยไม่สามารถขอยกเว้นได้ กระทบวีซ่าท่องเที่ยว-ธุรกิจ-นักเรียนต่างชาติ
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.27 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐด้วยวีซ่าชั่วคราว (non-immigrant visas) เตรียมต้องจ่าย “ค่าธรรมเนียมความสมบูณ์ของวีซ่า” (Visa Integrity Fee) ตามบทบัญญัติในกฎหมายใหม่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งลงนามบังคับใช้ภายใต้ชื่อ One Big Beautiful Bill Act ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้เพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมวีซ่าปกติที่มีอยู่แล้ว
ค่าธรรมเนียมนี้จะบังคับใช้กับผู้ขอวีซ่าชั่วคราวทุกประเภท เช่น วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ และวีซ่านักเรียนต่างชาติ และไม่สามารถขอยกเว้นได้ อย่างไรก็ตามหากปฏิบัติตามเงื่อนไขวีซ่าได้ครบ ผู้เดินทางอาจมีสิทธิ์ขอเงินคืนได้ในภายหลัง
อย่างไรก็ตามรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมใหม่นี้ยังไม่ชัดเจน โดยโฆษกของสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “ยังมีประเด็นท้าทายและคำถามอีกมากเกี่ยวกับวิธีการบังคับใช้ในทางปฏิบัติ”
สำหรับปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 2567 – 30 ก.ย. 2568) ค่าธรรมเนียมจะเริ่มต้นที่ 250 ดอลลาร์สหรัฐ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) สามารถกำหนดให้สูงกว่านี้ได้ และจะมีการปรับเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อในปีถัด ๆ ไป ซึ่งชำระเมื่อวีซ่าได้รับการอนุมัติ ผู้ที่ถูกปฏิเสธวีซ่าไม่ต้องจ่าย
ซึ่งค่าธรรมเนียมนี้เพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมวีซ่าปกติที่มีอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น ผู้ขอวีซ่าทำงาน H-1B ที่ปัจจุบันจ่าย 205 ดอลลาร์ จะต้องจ่ายรวมเป็น 455 ดอลลาร์ และยังต้องจ่ายเพิ่มค่าแบบฟอร์ม I-94 ซึ่งถูกปรับขึ้นจาก 6 ดอลลาร์เป็น 24 ดอลลาร์ อีกทั้งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขวีซ่า เช่น ไม่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่อยู่เกินระยะเวลาที่วีซ่าระบุเกินกว่า 5 วัน หากปฏิบัติตามครบ การคืนเงินจะเกิดขึ้น หลังจากวีซ่าหมดอายุ
อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าจะคืนอย่างไร และเมื่อใด โดยสำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐ (CBO) คาดว่ามีเพียงจำนวนน้อยมากที่จะยื่นขอคืนจริง และกระทรวงการต่างประเทศอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีระบบรองรับการคืนเงินได้
ด้านโฆษก DHS ระบุว่ากฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของระบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐ แม้ข้อมูลจากรัฐสภาระบุว่าชาวต่างชาติส่วนใหญ่ปฏิบัติตามเงื่อนไขวีซ่า โดยมีเพียง 1–2% ที่อยู่เกินระยะเวลา แต่ก็มีข้อมูลว่าประมาณ 42% ของประชากรต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารในสหรัฐ ราว 11 ล้านคน เดินทางเข้ามาอย่างถูกกฎหมายแต่อยู่เกินกำหนด
บราวน์คาดว่าค่าธรรมเนียมนี้จะกระทบผู้ถือวีซ่าประเภท B (ท่องเที่ยว/ธุรกิจ) และนักเรียนต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญ โดยกล่าวว่า “นักท่องเที่ยวอาจไม่อยากจ่ายเพิ่มอีก 250 ดอลลาร์ต่อคน สำหรับการเดินทาง”
ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมใหม่ยังเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่หลายรายการในปี 2026 เช่น งานฉลอง “America 250” ครบรอบ 250 ปีประเทศ และการแข่งขัน FIFA World Cup บางแมตช์
อย่างไรก็ตามมาตรการใหม่นี้เกิดขึ้นพร้อมกับปัญหาภายในองค์กร Brand USA ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเข้าสหรัฐ โดยงบประมาณถูกตัดจาก 100 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 20 ล้านดอลลาร์ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และกระทรวงพาณิชย์เพิ่งปลดบอร์ดบริหารเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเดือนเมษายน
ก่อนที่กฎหมายนี้จะผ่านการรับรอง Geoff Freeman ประธานสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐ ยกย่องว่าสหรัฐลงทุนอย่างเหมาะสมในโครงสร้างพื้นฐานและระบบความปลอดภัย
แต่ก็วิจารณ์ว่า“การลงทุนที่ชาญฉลาดในระบบท่องเที่ยว ถูกทำให้กลืนยากขึ้นด้วยค่าธรรมเนียมที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้มาเยือน และการลดงบ Brand USA อย่างรุนแรง”
อ้างอิง : www.cnbc.com