ลูกชายน้ำตาตก กัดฟันส่งเงินให้พ่อแม่เดือนละ 7 พันกว่า เพิ่งรู้เอาไปถอยรถให้พี่ชาย
หนุ่มมาเลเซียส่งเงินให้พ่อแม่เดือนละ 7 พันกว่าบาท สำหรับใช้หลังเกษียณ แต่กลับพบว่าพวกเขาใช้เงินก้อนนี้ไปซื้อรถใหม่ให้กับพี่ชายแทน
เว็บไซต์ WORLD OF BUZZ เผยว่า ชายมาเลเซียคนหนึ่งเริ่มตั้งคำถามกับความสัมพันธ์กับพ่อแม่ หลังทนไม่ไหวกับการปฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างเขาและพี่ชาย
ชายคนนี้ได้เล่าเรื่องราวแบบไม่ระบุตัวตนผ่านเพจเฟซบุ๊กโดยไม่เปิดเผยตัวตน เล่าว่าพ่อแม่ใช้เงิน 1,000 ริงกิต (ประมาณ 7,600 บาท) ที่เขาให้เป็นค่าเลี้ยงชีพหลังเกษียณ ไปช่วยซื้อรถใหม่ให้พี่ชาย โดยเขาเริ่มโพสต์ด้วยการอธิบายเหตุผลที่ส่งเงินเดือนละ 1,000 ริงกิตให้พ่อแม่
เขาเขียนว่า “ในปีที่ผมจบมหาวิทยาลัย ผมได้งานแรกที่มีรายได้เดือนละ 2,800 ริงกิต (ประมาณ 21,500 บาท) โดยมีช่วงทดลองงาน 3 เดือน แม่บอกผมว่า "ลูกต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นนะ แม่กับพ่อไม่ได้เป็นหนุ่มสาวตลอดไป ส่งเงินกลับบ้านเดือนละนิด เราจะเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ"
“ผมตอบตกลงทันที เพราะผมเป็นลูกที่เชื่อฟังอยู่แล้ว ผมจึงโอนเงินให้แม่เดือนละ 1,000 ริงกิต (ประมาณ 7,600 บาท) ค่าเช่าห้องผมเดือนละ 800 ริงกิต (ประมาณ 6,000 บาท) และต้องผ่อนเงินกู้ด้วย ผมจึงต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนจะซื้อกาแฟสตาร์บัคสักแก้ว”
เขายังเล่าเพิ่มเติมว่า ด้วยสถานะการเงินของตัวเอง เขาจึงต้องปฏิเสธคำชวนไปรับประทานอาหารหรือนัดดื่มกับเพื่อนร่วมงานอย่างสุภาพ
"ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีเพื่อนนะ แค่ผมถังแตกมาก ๆ เท่านั้นเอง แต่ผมก็คิดว่ามันคุ้มค่า พ่อแม่ผมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูผมมา แล้วถ้าผมช่วยได้บ้างล่ะ?"
เขามาถึงจุดแตกหัก
จนกระทั่งเขาได้ไปเยี่ยมพ่อแม่เมื่อเดือนที่แล้ว และพบว่าพ่อแม่ใช้เงินที่เขาส่งให้ไปซื้อรถใหม่ให้พี่ชาย ซึ่งทำให้เขาทะลุจุดแตกหักแล้ว
“เดือนที่แล้ว ผมลางานกลับบ้านเพื่อไปตรวจสุขภาพกับพ่อแม่ ก่อนกินข้าวเย็น ผมได้ยินเสียงเครื่องยนต์ข้างนอก เมื่อหันไปดู เห็นพี่ชายขับโตโยต้า วีออส สีขาวคันใหม่เข้ามา”
“ผมตกใจมาก ความคิดแรกผมคือ "พี่เพิ่งเปลี่ยนงานนี่ ทำไมถึงมีเงินซื้อรถได้?" พอทานข้าวกัน ผมก็ถามพี่ว่า "พี่ได้รถใหม่เหรอ? ซื้อมายังไง?" คำตอบของพี่ทำผมงงไปเลย "แม่ช่วยจ่ายเงินดาวน์ให้"” เขาเล่า
เขาถามแม่เกี่ยวกับเงินที่เขาส่งให้สำหรับใช้หลังเกษียณ แต่แม่ตอบว่า พี่ชายเริ่มมีครอบครัวแล้วและต้องใช้รถ อีกทั้งการเลี้ยงครอบครัวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพี่
“ตอนนั้นผมแทบร้องไห้ พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้พ่อแม่ใช้ชีวิตอย่างสบายในวัยชรา แต่เงินที่ผมให้กลับไม่ได้ถูกใช้เพื่ออนาคตของพวกท่าน กลับกลายเป็นเพื่อให้พี่ชายมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้น”
เขารู้สึกเหมือนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
เพราะการปฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างเขากับพี่ชาย เขาเผยว่า บางครั้งรู้สึกเหมือนไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับพ่อแม่
“พูดตรง ๆ ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งครั้ง ตอนเด็ก ๆ เวลาพ่อแม่ซื้อไก่ทอด ชิ้นสะโพกไก่มักจะตกเป็นของพี่ชายเสมอ ในช่วงตรุษจีนตอนแจกซองแดง ผมมักได้รับน้อยกว่าเขา 50 ริงกิต (ประมาณ 384 บาท)”
“เวลาผมไม่สบายใจ พ่อแม่จะบอกว่าผมดื้อรั้น แต่ถ้าพี่ชายโกรธ พวกเขากลับบอกว่าเขาเครียด ผมคิดว่ายิ่งโตขึ้นสิ่งต่าง ๆ คงจะเท่าเทียมกัน แต่ความจริงแล้ว ผมยังถูกมองว่า "ควรเป็นคนเชื่อฟัง มีเหตุผล และไม่แสดงอารมณ์" บางครั้ง ผมก็สงสัยว่าผมเป็นลูกแท้ ๆ ของพวกเขาจริงหรือเปล่า” เขาเล่าทิ้งท้าย
อย่าส่งเงินให้พ่อแม่อีก!
หลายคนแนะนำให้เขาหยุดส่งเงินสำหรับค่าเลี้ยงชีพหลังเกษียณ หรือเปลี่ยนวิธีช่วยเหลือ และใช้เงินก้อนนี้ดูแลตัวเองให้ดีขึ้นแทน