ฮาร์วาร์ดชนะคดีทรัมป์ ศาลสั่งคืนเงินวิจัย 2,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ CNN รายงาน แอลลิสัน เบอร์โรวส์ ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ได้ตัดสินให้มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้รับชัยชนะครั้งสำคัญในคดีต่อสู้กับรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยศาลตัดสินว่ารัฐบาลระงับเงินทุนวิจัยกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ของฮาร์วาร์ดอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลปฏิเสธข้ออ้างของรัฐบาลที่ระบุว่าการระงับเงินดังกล่าวเกิดจากปัญหาการต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย
ผู้พิพากษาเบอร์โรวส์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดย อดีต ปธน.บารัก โอบามา ระบุในคำตัดสิน 84 หน้าว่า จากบันทึกการบริหารงาน ทำให้ยากที่จะสรุปได้ว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้ข้ออ้างเรื่องการต่อต้านยิวเป็นเพียงหน้ากากสำหรับการโจมตีมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ ด้วยแรงจูงใจทางการเมือง เธอยังระบุว่า การกระทำของรัฐบาลส่งผลกระทบต่อการวิจัยที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษและความเป็นอยู่ของผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากงานวิจัยเหล่านั้น รวมถึงเป็นการละเลยสิทธิตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายของรัฐบาลกลาง
คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียวที่ยื่นฟ้องต่อสู้กับรัฐบาลทรัมป์โดยตรง รัฐบาลทรัมป์อ้างว่าการระงับเงินทุน เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการต่อต้านยิวในมหาวิทยาลัย แต่ฮาร์วาร์ดกลายเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้ที่กว้างขวางเกี่ยวกับเสรีภาพทางวิชาการ การใช้จ่ายของรัฐบาล และการกำกับดูแลวิทยาเขต
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทรัมป์ยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ โดย ลิซ ฮัสตัน โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่าผู้พิพากษาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยโอบามาคนนี้ ตั้งใจจะตัดสินเข้าข้างฮาร์วาร์ดโดยไม่สนใจข้อเท็จจริง และกล่าวหาว่าฮาร์วาร์ดล้มเหลวในการปกป้องนักศึกษาจากการถูกคุกคามและปล่อยให้มีการเลือกปฏิบัติในวิทยาเขตเป็นเวลาหลายปี
อลัน การ์เบอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวในแถลงการณ์ต่อชุมชนของมหาวิทยาลัยว่า คำตัดสินนี้ยืนยันถึงข้อโต้แย้งของมหาวิทยาลัยในการปกป้องเสรีภาพทางวิชาการ งานวิจัยวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ และหลักการพื้นฐานของการศึกษาในสหรัฐฯ แต่ก็ยอมรับว่ายังมีความไม่แน่นอนในอนาคต
อลัน การ์เบอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ผู้พิพากษาเบอร์โรวส์ ชี้ให้เห็นถึงโครงการวิจัยที่ได้รับผลกระทบจากการตัดเงินทุนของรัฐบาล เช่น การพัฒนาแบบจำลองเพื่อช่วยแพทย์ในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก การวิจัยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) การพัฒนาชิปเพื่อวัดรังสีที่นักบินอวกาศของนาซาและระบุว่า "ไม่มีหลักฐานชัดเจนที่เชื่อมโยงโครงการวิจัยเหล่านี้กับการต่อต้านยิว"
เบอร์โรวส์ ยังวิจารณ์โพสต์สื่อสังคมออนไลน์ของทรัมป์ โดยระบุว่า ความกังวลของเขาที่มีต่อฮาร์วาร์ดไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อต้านยิว และยกเลิกคำสั่งระงับเงินทุนที่ออกในเดือน เม.ย. ซึ่งระงับเงินช่วยเหลือระยะยาวกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมห้ามรัฐบาลระงับเงินทุนเพิ่มเติมจากฮาร์วาร์ด
ผู้พิพากษายอมรับว่าการต่อสู้กับการต่อต้านยิวเป็นเป้าหมายสำคัญ และระบุว่าฮาร์วาร์ดผิดที่ยอมทนต่อพฤติกรรมที่แสดงความเกลียดชังเป็นเวลานานเกินไป อย่างไรก็ตาม เธอเน้นว่าบันทึกแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้กับการต่อต้านยิวไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาล และการต่อสู้กับการต่อต้านยิวไม่สามารถทำได้โดยการละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ฮาร์วาร์ดและทำเนียบขาวได้หารือเกี่ยวกับข้อตกลงเพื่อคืนเงินทุนทั้งหมดและยุติคดีความ รวมถึงคดีแยกต่างหากเกี่ยวกับการจำกัดนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งเบอร์โรวส์ก็ตัดสินให้ฮาร์วาร์ดชนะ แต่คำตัดสินนั้นไม่ได้ป้องกันรัฐบาลจากการเริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ที่อาจทำให้ฮาร์วาร์ดสูญเสียสิทธิในการรับนักศึกษาต่างชาติในอนาคต
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์เรียกร้องให้ฮาร์วาร์ดจ่ายเงินอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าพวกเขาทำตัวแย่มาก และสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลินดา แมคมาฮอน ไม่ให้เจรจา
มหาวิทยาลัยอื่นที่ถูกรัฐบาลทรัมป์กดดัน เช่น มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งตกลงจ่ายเงิน 200 ล้านดอลลาร์เพื่อคืนเงินทุน และมหาวิทยาลัยบราวน์ ซึ่งจ่ายเงิน 50 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรพัฒนาแรงงานในโรดไอแลนด์ ขณะที่การเจรจากับมหาวิทยาลัยคอร์เนลและนอร์ทเวสเทิร์นยังดำเนินอยู่ และมีรายงานว่ารัฐบาลทรัมป์เรียกร้องเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ซึ่งผู้นำของมหาวิทยาลัยระบุว่าจำนวนดังกล่าวอาจทำลายมหาวิทยาลัยได้
อ่านข่าวอื่น :