โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ครม.อนุมัติงบกลาง 2,900 ล้านบาท หนุนกองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ ดูแลต่อเนื่อง 13.45 ล้านคน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 22.41 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ครม.ไฟเขียวจัดสรรงบกลางปี 2568 จำนวน 2,900 ล้านบาท ให้กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 13.45 ล้านคน

วันที่ 26 สิงหาคม 2568นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,900 ล้านบาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีสิทธิฯ) อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตามที่ คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เสนอ

โดยกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม มีการจัดสรรสวัสดิการแก่ผู้มีสิทธิฯ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 จำนวน 13.45 ล้านคน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 เป็นต้นมา ซึ่งมีสิทธิสวัสดิการประกอบด้วย

  • การจัดประชารัฐสวัสดิการใหม่สำหรับผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ดังนี้

  • วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม วงเงิน 300 บาทต่อเดือน เงื่อนไขจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด

  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม วงเงิน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เงื่อนไขจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด

  • วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ วงเงิน 750 บาทต่อคนต่อเดือน เงื่อนไขสำหรับขึ้นรถระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ รถบริษัท ขนส่ง จำกัด รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รถไฟฟ้ามหานคร บริษัทรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสนามบิน จำกัด และรถไฟ

  • มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า วงเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงื่อนไขกรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

  • มาตรการบรรเท่าภาระค่าน้ำประปา วงเงินอุดหนุนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงื่อนไขกรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ จากเดิมจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ในเบื้องต้นเฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสติการแห่งรัฐ โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป [ตามมติคณะรัฐมนตรี (28 มกราคม 2563)]

  • ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 กองทุนฯ มียอดเงินคงเหลือ 6,034.23 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กองทุนฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 50,400 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ จำนวน 50,287.26 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน จำนวน 112.74 ล้านบาท

โดยที่ผ่านมากองทุนฯ มีการใช้จ่ายงบประมาณสำหรับการจัดสรรสวัสดิการ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 กรกฎาคม 2568) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 45,533.33 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 บัญชีของกองทุนฯ ซึ่งเป็นบัญชีเพื่อใช้จ่ายสำหรับการจัดประชารัฐสวัสดิการให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการฯ ปี 2565 มีสถานะคงเหลือ 6,556.36 ล้านบาท (ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง)

โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2568 เฉลี่ยเดือนละ 4,720 ล้านบาท (รวมเป็นวงเงิน 9,440 ล้านบาท) ทำให้กองทุนฯ มีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรรบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,900 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ต่อไป

  • คณะกรรมการฯ ในคราวการประชุม ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568[รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) เป็นประธาน] ได้มีมติเห็นชอบประมาณการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,900 ล้านบาท

สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการแก่ผู้มีสิทธิฯ ดังกล่าวแล้ว ซึ่งต่อมาสำนักงบประมาณได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้กองทุนฯ ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,900 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ทั้งนี้ การจัดสรรสวัสดิการแก่ผู้มีสิทธิฯ ตามโครงการฯ ปี 2565 จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้มีสิทธิฯ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการซึ่งเป็นผู้มีสิทธิฯ ให้มีความต่อเนื่องในปึงบประมาณ พ.ศ. 2568

ที่มา : www.thaigov.go.th

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

เปิดโครงสร้าง “ธนาคารกลางสหรัฐ” กับความท้าทายภายใต้ทรัมป์ วาระ 2

22 นาทีที่แล้ว

ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดลบ นักลงทุนชะลอความเสี่ยง กังวลเศรษฐกิจจีน-นโยบายการเงินสหรัฐฯ

56 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

สภาพัฒน์ ชี้ เอกชนไทย กว่า 25% จ่อปลดพนง.ประจำ-ลดค่าแรง หันจ้างชั่วคราวแทน

MATICHON ONLINE

ดัชนีหุ้นปิดลบ 11.41 จุด ตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่

เดลินิวส์

CertiK เตือน "สงครามกับแฮกเกอร์คริปโตไม่มีวันจบสิ้น" หลังยอดขโมยพุ่งแตะ 2.5 พันล้านดอลลาร์

Manager Online

หนุนโคราชศูนย์กลางกีฬา-ท่องเที่ยว เปิดสิทธิเที่ยวฟรีผู้ถือบัตรวอลเลย์บอลโลก

ประชาชาติธุรกิจ

จุดต่ำสุดใกล้ผ่านไปแล้ว หุ้นไทยกำลังจะฟื้น คาดสิ้นปีมีลุ้นแตะ 1,280 จุด

TODAY

“ฝ่ายค้าน ฝรั่งเศส” รวมพลังโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ เสี่ยงรัฐบาลล้มกลางกันยายน

การเงินธนาคาร

กฟผ.เปิดขายซองประกวดราคาโซลาร์ทุ่นลอยน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

The Better

เปิดโครงสร้าง “ธนาคารกลางสหรัฐ” กับความท้าทายภายใต้ทรัมป์ วาระ 2

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...