KTBSTMRโวช์ไตรมาส2งบดีเตรียมจ่ายปันผลรวม45ล้าน
#KTBSTMR #ทันหุ้น กองทรัสต์ KTBSTMR เผยไตรมาส 2 อัตราการเช่ายังสูงและมีการต่อสัญญาเช่ารายเดิมได้สูงถึง 94% พร้อมจ่ายประโยชน์ตอบแทนงวดไตรมาส 2 ในอัตรา 0.1495 บาทต่อหน่วยทรัสต์ เป็นจำนวนเงินประมาณ 45.07 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยเตรียมรับเงินวันที่ 12 ก.ย. 2568
นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาโอ รีท แมเนจเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ‘DAOL REIT’ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า กองทรัสต์มีผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2568เติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า โดยกองทรัสต์มีรายได้รวม 85.49 ล้านบาท มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) เฉลี่ยในระดับสูงที่ประมาณ 89% โดยผู้เช่ารายเดิมสามารถต่อสัญญาเช่าใหม่ได้กว่า 94%
*ปิดดีลผู้เช่ารายใหม่
และทำสัญญากับผู้เช่ารายใหม่อีกกว่า 6 ราย มาจากหลากหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจการผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเภสัชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น สะท้อนถึงความต้องการเช่าในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี ขณะเดียวกันกองทรัสต์อยู่ระหว่างการสรรหาผู้เช่ารายใหม่ที่มีศักยภาพสอดคล้องในทำเลของแต่ละโครงการเพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ กองทรัสต์เตรียมแผนกันเงินเพื่อสำรองจ่ายคืนเงินต้นการกู้ยืมที่นำมาใช้ในการลงทุนโครงการ ดาต้า เซ็นเตอร์ให้กับสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2568 เป็นต้นไป ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอนาคต อย่างไรก็ตาม แนวทางการชำระคืนเงินต้นดังกล่าวจะช่วยลดภาระต้นทุนดอกเบี้ยในระยะยาวและลดอัตราส่วนการกู้ยืม (สัดส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจ่าย (interest-bearing debt) ต่อมูลค่าสินทรัพย์รวม (TAV)) ส่งผลให้กองทรัสต์เพิ่มโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ ได้ในอนาคต
*มุ่งมั่นอีเอสจี
นอกจากนี้ กองทรัสต์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง กองทรัสต์ได้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Roof Energy) บนพื้นที่โครงการซัมเมอร์ฮับและซัมเมอร์ฮิลล์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานอาคารตามแนวทางอาคารเขียว (Green Building Standard) โดยการติดตั้งระบบ solar ไม่เพียงช่วยลดการใช้พลังงาน แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนของโครงการ โดยคาดว่าผลประโยชน์ด้านต้นทุนจะสะท้อนในค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2568 เป็นต้นไป ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกองทรัสต์ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้าน ESG
“ปัจจุบันกองทรัสต์ KTBSTMR มีสัดส่วนการกู้ยืมที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์รวม เมื่อมีการชำระคืนเงินกู้ได้ครบถ้วน รายได้จากทรัพย์สินจะไม่ถูกนำไปใช้ในการชำระหนี้อีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ผลกำไรสุทธิของกองทรัสต์เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มที่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยในอัตราที่สูงขึ้นได้ในอนาคต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ของตลาดและผลการดำเนินงานในแต่ละช่วงเวลา” นายพลสิทธิ กล่าว
ทั้งนี้ จากการบริหารสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ กองทรัสต์จึงพิจารณาการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงาน สำหรับไตรมาสที่ 2/2568 สำหรับรอบผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2568 – 30 มิ.ย. 2568 (ระยะเวลา 91 วัน) ที่อัตรา 0.1495 บาทต่อหน่วยทรัสต์ มูลค่ารวม 45.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนแบบปรับปรุงเต็มปีประมาณ 10.52% /1 เมื่อเทียบกับราคาตลาดของหน่วยทรัสต์ KTBSTMR ณ วันที่ 4 ส.ค. 2568 ที่ 5.70 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 27 ส.ค. 2568 ซึ่งจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 12 ก.ย. 2568
*มุมมองเศรษฐกิจไทย
นายพลสิทธิกล่าวถึง แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ว่า ในภาพกว้างเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรมและรายได้จากการท่องเที่ยว แม้การส่งออกยังเติบโตประมาณ 16.1% และไทยยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัด แต่เศรษฐกิจโดยรวมเห็นสัญญาณชะลอตัว โดยจะเห็นว่า GDP ปี 2568 มีแนวโน้มโตระหว่าง 1.8% – 2.3% เท่านั้น โดยรายงานจาก World Bank ปรับลงเหลือ 1.8% และ Bank of Thailand คาดโตที่ 2.3% ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี สะท้อนความกังวลจากภาวะตรึงเศรษฐกิจ ภาระค่าครองชีพ และความไม่แน่นอนทางการเมือง
นอกจากนี้เมื่อเจาะลึกลงมาระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์พบว่า คลังสินค้า / โรงงาน (Industrial & Logistics) ได้รับแรงหนุนจากมาตรการ BOI และความสนใจของนักลงทุนต่างชาติที่บูมต่อเนื่องใน EEC สำหรับห้างสรรพสินค้า (Retail) ยังคงเคลื่อนไหวสูงในกรุงเทพฯ ด้วยแผนเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่และปรับปรุงพื้นที่ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในขณะที่อุปทานใหม่ยังคงเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่อาคารสำนักงาน (Office) มีอุปทานใหม่เข้าสูงเกินความต้องการ แม้กระนั้นมีเทรนด์การย้ายจากอาคารเก่าไปสู่ Grade‑A ใหม่ที่ได้มาตรฐาน ESG และคุณภาพสูง และในส่วนของอาคารดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื่องจากองค์กรธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็ก หันมาเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกแทนการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์เอง
“ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโต แตกต่างกันไปตามกลุ่มอุตสาหกรรม โดยภาคอุตสาหกรรมและค้าส่งได้รับแรงหนุนอย่างชัดเจน ขณะที่ภาคที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานเผชิญแรงกดดันจากอุปทานล้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไม่สดใส” นายพลสิทธิ กล่าว
สำหรับเจ้าของสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภท อาคารคลังสินค้า / โรงงาน อาคารศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน อาคารดาต้าเซ็นเตอร์ โรงแรมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด หรือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่สนใจสร้างรายได้ ในการนำเสนอให้กองทรัสต์พิจารณาเข้าลงทุน ทางเจ้าของทรัพย์สินสามารถนำส่งข้อมูลเบื้องต้น เพื่อให้บริษัทฯ ได้พิจารณาข้อมูลและนำเสนอโอกาสในการลงทุนที่เหมาะสมแก่เจ้าของทรัพย์สินได้
โดยเจ้าของทรัพย์สินสามารถศึกษารายละเอียดและนำส่งข้อมูลผ่านทาง website : https://www.ktbstmr.com หรือ email : info_reit@daol.co.thหรือ ติดต่อโดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-351-1803เมื่อทางบริษัทฯ ได้รับข้อมูลแล้วจะรีบติดต่อไปยังเจ้าของทรัพย์สินเพื่อประสานงานในขั้นตอนต่อไป
หมายเหตุ
/1 อัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนปรับปรุงให้เต็มปี = (เงินจ่ายประโยชน์ตอบแทน/ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 4 ส.ค. 2568) x (365/91)/1 อัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนปรับปรุงให้เต็มปี = (เงินจ่ายประโยชน์ตอบแทน/ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 4 ส.ค. 2568) x (365/91)