BANPU เร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Energy Symphonics ครึ่งปีแรก 68 รุกขยายก๊าซ-CCUS-กักเก็บพลังงาน และลงทุนธุรกิจนิกเกิล
BANPU เดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตครึ่งปีแรก 2568 ภายใต้กลยุทธ์ Energy Symphonics มุ่งบริหารพอร์ตลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีและ AI ลดต้นทุน และปรับโครงสร้างเงินทุนให้แข็งแกร่ง โดยมีความคืบหน้าเด่นใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติและโครงการดักจับ-กักเก็บคาร์บอน (CCUS), ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และการลงทุนในธุรกิจเหมืองยุคใหม่ โดยเฉพาะการเริ่มก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมนิกเกิลในอินโดนีเซีย สร้างฐานใหม่ให้ห่วงโซ่อุปทานพลังงานแห่งอนาคต
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กล่าวว่า “ครึ่งปีแรกนี้ บ้านปูขยายการเติบโตภายใต้กลยุทธ์ Energy Symphonics โดยมุ่งบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ (Portfolio Optimization) หมุนเวียนเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ศักยภาพสูง ควบคู่กับการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน (Operations & Cost Excellence) และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ลดต้นทุนในธุรกิจเหมือง รวมถึงการบริหารโครงสร้างเงินทุน (Rebalanced Capital Structure) ให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว
“ความคืบหน้าที่โดดเด่นเห็นได้จาก 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและ CCUS ธุรกิจ Renewables+ และธุรกิจเหมืองยุคใหม่ ที่เรามองว่าเป็นภารกิจสำคัญที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ และเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนผ่านที่ยั่งยืน”
สำหรับไฮไลท์ผลการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลักในครึ่งปีแรก 2568 มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
➡️ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ธุรกิจเหมือง ปริมาณการผลิตและขายรวมครึ่งแรกปี 2568 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่จากสภาวะราคาถ่านหินทั่วโลกอ่อนตัวอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน จึงกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวม การมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการจัดซื้อจัดจ้างงานด้านวิศวกรรม การเงิน และดำเนินงาน ( Value Efficiency Program) ที่เหมืองสำคัญในออสเตรเลียทำให้ต้นทุนเฉลี่ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่เหมืองในประเทศอื่น ๆ สามารถบริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดี สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี นอกจากนี้ยังได้เริ่มลงทุนใน PT Aneka Tambang (AKP) ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่อุตสาหกรรมแร่พลังงานแห่งอนาคต เสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า โดยการเข้าถึงแหล่งนิกเกิลคุณภาพสูงตั้งแต่ต้นน้ำ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ในครึ่งปีที่ผ่านมา ปริมาณการขายอยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของบ้านปูอยู่ที่ 2.92 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู เพิ่มขึ้นจาก 1.82 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCUS) เดินหน้าขยายพอร์ตจากการร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ และได้ตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในโครงการ East Texas ซึ่งจะสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ประมาณ 70,000 ตันต่อปี คาดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นปี 2570 นอกจากนั้นยังมีการเข้าซื้อกิจการ Bedrock Production, LLC เจ้าของธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจกลางน้ำในแหล่งบาร์เน็ตต์ รัฐเท็กซัส หลังการทำธุรกรรมเสร็จสิ้นประมาณเดือนตุลาคมปีนี้ กำลังการผลิตรวมของ BKV จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 108 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ 1P จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต
➡️ กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน โรงไฟฟ้าในทุกประเทศมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจส่งผลให้สามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวม 969 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 2567 ที่ 66 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ กำลังผลิตรวมของกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงานคงที่ 3,935 เมกะวัตต์เทียบเท่า
➡️ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมกว่า 1,130 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ตามสัดส่วนการลงทุน ที่ดำเนินการผ่านบ้านปู เน็กซ์ มีความคืบหน้าที่สำคัญในครึ่งปีแรก โดยในญี่ปุ่น โครงการ Iwate Tono กำลังการผลิต 14.5 เมกะวัตต์ ความจุพลังงาน 58 เมกะวัตต์ชั่วโมง เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เดือนมิถุนายน 2568 และในออสเตรเลีย มีการลงทุนในโครงการระบบกักเก็บพลังงานวูรีน (Wooreen Energy Storage System: WESS) กำลังการผลิตติดตั้ง 350 เมกะวัตต์ และความจุพลังงาน 1,400 เมกะวัตต์ชั่วโมง คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในปี 2570 ธุรกิจจัดการพลังงาน เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่ Net Zero ควบคู่กับความร่วมมือระดับนานาชาติผ่านเวทีนโยบายไทย-ญี่ปุ่น และการลงนาม MOU กับ Asuene ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการลดคาร์บอนในภาคธุรกิจ และยังได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนสำหรับองค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง สำหรับธุรกิจการซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading) ในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 สามารถจำหน่ายไฟฟ้าจำนวนรวม 3,525 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยให้บริการลูกค้ารวม 1,956 ราย ซึ่งได้มีการนำระบบ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการคาดการณ์ราคาซื้อขายไฟฟ้า เพื่อยกระดับความสามารถในการทำกำไร
บ้านปูโชว์ EBITDA 1.9 หมื่นล้าน ย้ำผลขาดทุนสุทธิจากเงินบาทแข็งค่ายังไม่เกิดขึ้นจริง ไม่กระทบต่อกระแสเงินสด
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 2,521 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 84,543 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 571 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 19,144 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ รายงานผลขาดทุนสุทธิจำนวน 42.76 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,428 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการรับรู้ผลขาดทุนจากการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ไม่กระทบต่อกระแสเงินสด และความแข็งแกร่งของการดำเนินงานของบริษัทฯ