รัฐบาล พาคณะทูต-สื่อ ลงพื้นที่ ศูนย์พักพิงผู้อพยพ กว่า 5,000 คน
รัฐบาล พาคณะทูต-สื่อ ลงพื้นที่ ศูนย์พักพิงผู้อพยพ กว่า 5,000 คน ย้ำดำเนินการด้วยระบบการจัดการที่รัดกุมปลอดภัย พร้อมดูแลเยียวยาจิตใจ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น และจิตอาสา
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ ศูนย์พักพิงนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกรรมการศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า
รัฐบาลโดย ศบ.ทก. กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ นำคณะเอกอัครราชทูต อุปทูต และทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและสื่อต่างชาติ ลงพื้นที่ศูนย์พักพิง
ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์พักพิง เปิดเผยว่า ศูนย์พักพิงฯ แห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 09.30 น. หลังได้รับแจ้งเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีนักเรียนและนักศึกษาในสังกัดกว่า 3,000 คน ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับทั้งนักเรียน และประชาชนในพื้นที่ที่ต้องอพยพ
การบริหารจัดการภายในศูนย์พักพิงฯ ใช้บุคลากรในสถานศึกษาจำนวน 127 คนร่วมดูแล มีทั้งฝ่ายบริหารจัดการ ฝ่ายพยาบาลและสุขาภิบาล ฝ่ายลงทะเบียนและจัดที่พัก รวมถึงฝ่ายกิจกรรมบำบัดทางจิตใจ โดยในวันแรกมีผู้อพยพลงทะเบียนเข้าพักถึง 5,147 คน ซึ่งเกินขีดความสามารถของอาคารอเนกประสงค์ที่ใช้เป็นพื้นที่รวมพล จึงต้องปรับห้องเรียนเป็นที่พักชั่วคราว พร้อมจัดระบบสุขาภิบาล ห้องน้ำ ห้องส้วม และพื้นที่รับประทานอาหาร
ศูนย์พักพิงฯ มีขั้นตอนการรับผู้อพยพเริ่มจากการลงทะเบียนระบุชื่อ หมู่บ้าน และตำบล จากนั้นจึงจัดให้รอพักในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ก่อนแยกเข้าห้องพักอย่างเป็นระบบ โดยจัดเตรียมอาหารวันละประมาณ 15,000 กล่อง มีการจัดคิวแจกอาหารเพื่อให้สามารถรับอาหารได้อย่างทั่วถึง รวมถึงกิจกรรมสันทนาการเพื่อดูแลสุขภาพจิต ร่วมกับอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และจิตอาสาจากหลายภาคส่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากสภากาชาดไทย
ระบบสุขาภิบาล ได้รับความร่วมมือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมือง และหน่วยงานท้องถิ่นในการจัดหาน้ำสะอาด ระบบกำจัดขยะ และดูแลสุขลักษณะของสถานที่อย่างใกล้ชิด พร้อมมีการจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้รับความร่วมมือจากสถานีตำรวจ และหน่วยรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน ซึ่งหมุนเวียนกันมาดูแลผู้พักพิงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากการประเมินผลจากผู้พักพิงและการสื่อสารประชาสัมพันธ์รายวัน สะท้อนว่า ประชาชนพึงพอใจในระดับสูง ดูแลผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ
“ผู้ที่อยู่ในศูนย์ฯ พอใจการจัดการ โดยทุกคนได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากภาครัฐ ทั้งผู้ว่าราชการ นายกเหล่ากาชาด ท้องถิ่น ทั้ง อบจ. อบต. รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ช่วยดูแลเรื่องอาหาร ยารักษาโรค ที่พัก สุขอนามัย ความปลอดภัย รวมทั้งมีกิจกรรมฟื้นฟูสภาพจิตใจ มีการดูแลความปลอดภัยในศูนย์ ถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีเหตุโจรกรรมเลย ทุกคนมั่นใจและปลอดภัยภายใต้สถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น” นายจิรายุกล่าว