“อนุทิน” เหน็บ “ทักษิณ” บางที “ไทยถึงทางตัน” อาจจะดีกว่าวนอยู่ที่เดิม

วันนี้ (14 ก.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการจัดรายการ Exclusive talk ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ดูเหมือนจะพูดถึงพรรคภูมิใจไทยเกือบครึ่งรายการ ว่า ไม่ได้ฟังพอดีลงพื้นที่ ตั้งแต่ออกจากรัฐบาล พลพรรคของพรรคภูมิใจทุกคน จะไม่ยอมเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชน

ส่วนที่นายทักษิณ ระบุว่า ที่จริงแล้วนายกรัฐมนตรี อยากให้พรรคภูมิใจไทย อยู่ร่วมกับรัฐบาล นายอนุทิน ก็เชื่อว่า ท่านนายกฯ อยากให้อยู่ แต่คุณพ่อท่านนายกฯ และคนอื่น ๆ “ไม่มั่นใจ ไล่ทุกวันเลย”

ส่วนที่บอกว่าเสียเก้าอี้ มท.1 ไป พรรคภูมิใจไทย จึงออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ยืนยันว่า ถ้าไม่รักษาข้อตกลง ไม่รักษาสัญญากันไว้ ไม่มีสปิริตของการอยู่ร่วมกัน ก็เป็นทางเลือกเดียวของเรา และที่เราออกมาไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้อย่างเดียว

“เรื่องที่สำคัญคือเรื่องคลิป ที่ทำให้เราเห็นว่า เกียรติภูมิของประเทศไทย ถูกย่ำยี เป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกันแก้ไข เพราะไม่มีทางที่ประเทศใดก็ตาม ที่จะทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จะเกิดความสงบสุข และเกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน”

ส่วนที่นายทักษิณ ระบุว่า จริง ๆ แล้ว ตนง่ายกว่าหมู ข้อเท็จจริงง่ายหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้พูดคุยกับท่าน ล่าสุดก็คุยกับนายกรัฐมนตรี และเมื่อได้รับแจ้งมา เรารับข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยไม่ได้

พอพรรคภูมิใจไทยออกมา ก็ถูกใส่ใหญ่เลยว่า ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีผลงาน ซึ่งตนกล้าท้า และมั่นใจว่า สมัยที่เราอยู่ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย เราเป็นฝ่ายที่เริ่มต้นทำทุกอย่าง ทั้งปราบยาเสพติด จัดระเบียบสังคม การพนัน ค้าประเวณี ควบคุมอาวุธปืน พรรคภูมิใจไทย ล้วน ๆ เลย

สิ่งที่เราให้ความร่วมมือ คือสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นโทษกับประชาชนกับประเทศ คือเรื่องกาสิโน พนันออนไลน์ ก็ยอมรับว่า เป็นสิ่งที่เราไม่ให้ความร่วมมือ แต่สปริตของการอยู่การอยู่ร่วมรัฐบาล ถ้าทุกพรรคเห็นด้วย เราก็จำเป็น

แต่ก็จะมาใส่เงื่อนไขต่าง ๆ ในร่างกฎหมาย แต่ออกมาแล้ว ใครไม่อยากได้กาสิโน ในประเทศไทย และไม่อยากให้เว็บพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ก็ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย เราจะขัดขวาง และต่อต้านการออกกฎหมายคาสิโน

ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า จะหาที่ดิน ให้บริษัทซิโน-ไทย สร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ แบบไม่มีกาสิโน นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ต้องซิโน-ไทย ทำ แต่บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ก็ทำแล้วเจริญเติบโต ดูอย่างไอคอนสยามถือว่า เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์คอมเพล็กซ์หรือไม่ มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงหนัง ภัตตาคาร ศูนย์ประชุม สนามเด็กเล่น ก็อยู่ที่สยามพารากอน

ไม่เป็นไรหรอก เราเอาให้คนที่อยู่ในอาชีพทำดีกว่า แต่สิ่งที่กังวลคือ การไม่ให้คนไทยได้ลงทุน แต่เป็นการให้ต่างชาติเข้ามาทำประโยชน์มากกว่า จากจะเป็นการลงทุนที่ดี กลับกลายเป็นการขายใบอนุญาตตรงนี้มากกว่าที่จะผลักดัน

พรรคภูมิใจไทย พอเห็นแนวทาง และร่างที่มีการหารือกันมาตลอด เลยเห็นแล้วว่า มีการบังหน้าด้วยเอนเตอร์เทนเนอร์คอมเพล็กซ์ แต่เป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังคือ กาสิโน พร้อมย้อนถามว่า เห็นหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า สภาพทุกอย่างก็เห็นอยู่แล้ว ทั้งผลโพลหรืออะไรก็ตาม ดังนั้นวันนี้เราต้องเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งผลโพลแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าประชาชนไม่ต้องการให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป ซึ่งผลโพลก็ตรงกับเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย และเราก็เห็นว่า รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศนี้ไปแล้ว เราก็ถอนตัวออกมา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากยื้อกันไปแบบนี้ รัฐบาลจะอยู่ได้นานหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ยื้อเลย ทุกอย่างมีเวลาของมัน เราก็ดูสถานการณ์ และติดตามสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ให้ความสำคัญ ว่ารัฐบาลนี้จะมีงูเห่ามาเพิ่มหรือไม่ จนทำให้เกิดความมั่นคงยั่งยืน และตนมองว่า เรื่องนี้สำหรับรัฐบาลมันจบไปแล้ว มันนับเป็นวันๆ เดือนๆ แต่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับประชาชน

ดังนั้น สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำงานอยู่ตอนนี้ ไม่ได้ไปวุ่นวายกับการดำรงอยู่ของรัฐบาล เราลงพื้นที่หาพี่น้องประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่า ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลง ปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยทุกวันนี้ได้รับการคลี่คลาย เช่น เรามีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นจากการเจรจา

ถ้าปัญหาผู้นำทั้ง 2 ประเทศ เยอะกันขนาดนี้ ซึ่งมีความขัดแย้งรุนแรงที่ค่อนข้างรุนแรง และกว้าง ยากที่จะบรรจบกันได้ ก็ต้องอยู่บนการเจรจา รวมถึงปัญหาประเทศเพื่อนบ้านที่กระทบกับ 7 จังหวัดชายแดน สิ่งเหล่านี้สะท้อนสะท้อนออกมาผ่านผลโพล ซึ่งเป็นผลโพลที่ทำในกรุงเทพฯ ด้วย เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ผลโพลออกมาเป็นอย่างไร

ส่วนที่นายทักษิณ กล่าวว่า เขายังอยู่ ไม่มีทางที่ประเทศจะถึงทางตัน นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ถึงทางตัน แต่ก็ไม่ถึงจุดหมาย ก็วนไปวนมา บางทีถึงทางตันมันอาจจะดีกว่า จะได้เปลี่ยนอะไรได้ง่ายๆ ไอ้วนไปวนมาอาจจะอยู่ที่เดิม กลับมาปัญหาต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ตนว่าสิ่งนี้น่ากลัวมากกว่าเจอทางตัน

อ่านข่าว :