รพ.จุฬา ชูส่องกล้องจี้ตับอ่อนแห่งแรกในอาเซียน ขอบคุณ 'กัลฟ์' ทุ่มทุนหนุน 18ลบ.
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในงานเสวนา “ทีมแพทย์ รพ.จุฬาลงกรณ์ นำเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกในตับอ่อนไร้แผลแห่งแรกในอาเซียน” โดยมีรศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย รศ.นพ.ประเดิมชัย คงคำ หัวหน้าศูนย์วิจัยโรคตับอ่อนและผู้ช่วยอธิการบดีด้านแผนและงบประมาณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะแพทย์ของโรงพยาบาลเข้าร่วมในกิจกรรม
รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า วันนี้เป็นการนำเสนอสิ่งดีๆ ในการรักษาตับอ่อนด้วยเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกในตับอ่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วยการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยตอบโจทย์ปัญหาของผู้ป่วย ทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้น เนื่องจากโรคตับอ่อนเป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่วินิจฉัยได้ยาก โอกาสพบผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนเฉลี่ย 1 คนต่อประชากรล้านคน เพราะตับเป็นอวัยวะภายในลึกและผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์ เมื่อมีอาการเยอะแล้ว ส่วนการผ่าตัดตับอ่อน มักใช้เวลานาน แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ผลการรักษาดีขึ้น สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงเป็นต้นแบบของการรักษาที่จะมีการใช้ในแพร่หลายต่อไป
“สิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่หมอคนเดียว แต่เป็นทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล นักเทคนิควิทยา รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เราได้นำเอาเข้ามา จากผู้สนับสนุนทุนบริจาคซื้อเครื่องมือ ซึ่งโครงการนี้เป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ป่วยอย่างมากมาย สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเรา ต้องเป็นทีมไทยแลนด์ ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกับผู้ป่วยของประเทศ ซึ่งหวังว่าจะมีความร่วมมือและการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา เพื่อให้คนไทยเราเข้าถึงได้ต่อไป” รศ.นพ.ฉันชาย กล่าว
ขณะที่ รศ.นพ.ประเดิมชัย กล่าวว่า ตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกของตับอ่อนจะมีปริมาณอินซูลินสูงกว่าปกติ จึงมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำตลอดเวลา ในรายที่อาการไม่มากอาจมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หิวบ่อย มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก ผู้ป่วยบางรายต้องรับประทานอาหารบ่อยถึงวันละ 6 มื้อ เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มอย่างรวดเร็ว แต่ในรายที่มีอาการมาก อาจรุนแรงถึงชักหรือหมดสติได้
รศ.นพ.ประเดิมชัย กล่าวว่า สำหรับเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล (Endoscopic Ultrasound-Guided Radiofrequency Ablation, EUS-RFA) เป็นการนำมาใช้เป็นแห่งแรกในประเทศอาเซียน ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของโลก เริ่มนิยมใช้เมื่อ 3-5 ปีที่ผ่านมา เดิมประเทศไทยมักจะเป็นผู้ใช้ในลำดับหลังจากที่มีการศึกษาจากทั่วโลกมานานแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะเป็นผู้นำเทคโนโลยีนี้ให้กับหลายประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ เครื่องมือดังกล่าวเป็นกล้องส่องทางเดินอาหารที่ติดไปกับเครื่องอัลตราซาวด์ โดยนำเข้าทางปากของผู้ป่วย ด้วยเครื่องมือนี้ทำให้แพทย์มองเห็นเนื้องอกในตับอ่อนได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็สามารถใช้คลื่น RFA (Radiofrequency Ablation) เพื่อรักษาเนื้องอกหรือรอยโรคภายในอวัยวะในช่องท้อง โดยเฉพาะตับอ่อน ตับ ต่อมน้ำเหลือง และทางเดินน้ำดี ด้วยความแม่นยำสูง ภายใต้การมองเห็นแบบ real-time ทำให้สามารถระบุตำแหน่งรอยโรคและส่งเข็มพิเศษที่มีขั้ว RFA เข้าไปยังเป้าหมายโดยตรง จากนั้นปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเนื้องอกเฉพาะจุด โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงมากนัก ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น เช่น เคมีบำบัด หรือใช้เป็นการรักษาหลักในผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
รศ.นพ.ประเดิมชัย กล่าวว่า เนื้องอกที่เกิดขึ้นจะถูกทำลายได้ประมาณ 60-80% ในครั้งแรก โดยจะมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่การรักษาในครั้งแรกอาจจะจี้เนื้องอกไม่หมด ประมาณ 10% ที่จำเป็นจะต้องกลับมาพบแพทย์ซ้ำ ซึ่งหลังจากการรักษาครั้งแรกแล้ว แพทย์จะนัดติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
“ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ใช้คลื่น RFA จี้เนื้องอก ใช้เวลาเร็วกว่าการผ่าตัดบริเวณตับที่มีความซับซ้อนที่เดิมใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง จึงทำให้ผู้ป่วยใช้เวลาพักฟื้นน้อยลงด้วย ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขอขอบคุณผู้สนับสนุนด้านเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ ให้เรามีเครื่องมือใหม่ๆ ใช้รักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รศ.นพ.ประเดิมชัย กล่าว
รศ.นพ.ประเดิมชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ใช้เทคนิคส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ประมาณ 100 ราย สำหรับค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนั้น เฉลี่ย 80,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งยังไม่อยู่ในความครอบคลุมของหลักประกันสุขภาพของประเทศ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ ถ้าหากการรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดี ก็จะมีการนำเสนอให้เทคนิคการรักษานี้บรรจุอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพคนไทยต่อไป
โดยเวลา 12.30 น. รศ.นพ.ฉันชาย เป็นผู้แทนในการรับมอบทุนสนับสนุนโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จากนายสารัชถ์ รัตนวะดี รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF
โดย นายสารัชถ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นหนึ่งในส่วนร่วมสนับสนุนการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์คทั้งนี้ เพื่อส่งมอบการรักษาโรคตับอ่อน ช่วยชีวิตคนไทยได้มาก ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาการรักษาต้องผ่าตัดอย่างเดียว แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นที่แรกในไทยและอาเซียน ในการรักษาโรคตับอ่อนด้วยการผ่าตัดส่องกล้องครั้งนี้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รพ.จุฬา ชูส่องกล้องจี้ตับอ่อนแห่งแรกในอาเซียน ขอบคุณ ‘กัลฟ์’ ทุ่มทุนหนุน 18ลบ.
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th