รู้แล้ว ที่มาคำทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ 5 ก.ค.นี้ เจ้าตัวพูดเอง เชื่อได้จริงไหม
ไขที่มาข่าวลือ แผ่นดินไหวญี่ปุ่นกระทบเอเชีย 5 กรกฎาคมนี้ ที่แท้มาจากมังงะดัง 20 ปีก่อน ผู้เขียนยันเป็นแค่ความฝันไม่ใช่คำทำนาย วอนอย่าตื่นตระหนก
กลางกระแสข่าวลือบนโลกโซเชียลเกี่ยวกับคำทำนายแผ่นดินไหวในวันที่ 5 กรกฎาคม 2025 ล่าสุดมีการเปิดเผยถึงต้นตอของข่าวลือดังกล่าว ซึ่งไม่ได้มาจากหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์หรือองค์กรเตือนภัยพิบัติใด ๆ แต่มีจุดเริ่มต้นมาจากความฝันที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น (มังงะ) ตีพิมพ์เมื่อ 20 กว่าปีก่อน แม้แต่ผู้เขียนเองก็ได้ออกมาขอร้องให้สาธารณชนอย่าตื่นตระหนกและตีความไปไกล
กระแสไวรัลวันสิ้นโลก 5 ก.ค. 2025 มีต้นกำเนิดจากหนังสือการ์ตูนเรื่องฉันมองเห็นอนาคต (The Future I Saw) ของนักเขียนการ์ตูนหญิงชาวญี่ปุ่น คุณทัตสึกิ เรียว (Tatsuki Ryo) ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1999 หนังสือการ์ตูนเล่มนี้โด่งดังและกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เพราะมีเนื้อหาส่วนหนึ่งที่บังเอิญไปคล้ายคลึงกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น ในปี 2554 อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้หลายคนเชื่อว่าผู้เขียนมีญาณทิพย์ในการมองเห็นอนาคต
ต่อมาการตีพิมพ์หนังสือฉบับปรับปรุงใหม่ ผู้เขียนได้เปิดเผยบันทึกความฝันสำคัญอีกชิ้นหนึ่งระบุถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2025 เผยว่าจะเกิดเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ มีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลรอยต่อระหว่างญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน จะเกิดจากการระเบิดใต้ทะเลและทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่ตามมา นี่เองจึงเป็นที่มาของข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วออนไลน์
แม้เรื่องราวจะดูน่าเชื่อถือ แต่คุณทัตสึกิ เรียว ผู้เขียนการ์ตูน ได้ออกมายืนยันหลายต่อหลายครั้งว่าเธอไม่ใช่นักพยากรณ์ หนังสือการ์ตูนเป็นเพียงการวาดภาพจากความฝันของเธอเท่านั้น อีกทั้งวันที่ที่ปรากฏในฝัน “ไม่ได้หมายความว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นจริงในวันดังกล่าว” ทั้งขอร้องให้ทุกคนอย่าตีความเนื้อหาในหนังสือของตนเองมากจนเกินไป
นอกจากนี้ พระมิกิ ไทอุน พระชื่อดังของญี่ปุ่น ยังออกมาช่วยยืนยันผ่านช่องยูทูบหลังมีโอกาสพูดคุยกับนักเขียนคนดัง เธอย้ำเจตนารมณ์เดิมว่า เป็นเพียงการวาดภาพจากความฝัน ไม่ได้มีเจตนาจะพยากรณ์เหตุการณ์ภัยพิบัติใด ๆ ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างสงบ อย่าตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตาม คำทำนายภัยพิบัติลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนในประวัติศาสตร์ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยมีครั้งไหนเกิดขึ้นจริง ย้อนกลับไปในปี 1999 เคยมีคำทำนายวันสิ้นโลกของนอสตราดามุส ต่อมาในปี 2000 มีวิกฤตคอมพิวเตอร์ Y2K ที่เชื่อว่าจะทำให้ระบบทั่วโลกพังทลาย ตามมาด้วยข่าวลือดาวเคราะห์นิบิรุจะพุ่งชนโลก ในปี 2003 ปิดท้ายด้วยคำทำนายในปี 2012 วันสิ้นโลกตามปฏิทินของชาวมายาที่เคยสร้างความตื่นกลัวไปทั่วโลก
ข้อมูลจาก : ettoday
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง