สาวเคยไปมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก แต่มีเพียงประเทศเดียวที่กลับไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หญิงสาวผู้เคยไปมากกว่า 90 ประเทศ และส่วนใหญ่ไปเพียงครั้งเดียว แต่มีเพียงประเทศเดียวที่อยากกลับไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เจมี่ เดวิส สมิธ หญิงสาวจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งหัวใจของเธอคือคนเดินทางโดยแท้ เธอไปมากกว่า 90 ประเทศแล้ว และยังไม่มีแผนจะหยุดสำรวจโลกนี้
ตามปกติแล้วสไตล์การเดินทางของเธอมักเป็นแบบไปครั้งเดียวจบ ทำไมต้องไปโคลอสเซียมอีกครั้ง ในเมื่อยังไม่ได้ไปดูพีระมิดยักษ์หรือทวีปแอนตาร์กติกาเลย?
แต่กลับมีประเทศหนึ่งที่ดึงเธอกลับไปซ้ำอยู่เสมอ นั่นคือ "ไอซ์แลนด์" ซึ่งเธอเคยไปแล้ว 3 ครั้ง และแน่นอนว่าจะกลับไปอีกอย่างแน่นอน
โดยเธอเล่าว่า "ฉันตกหลุมรักประเทศนี้อย่างรวดเร็วตั้งแต่การไปครั้งแรก
ฉันเคยอยากไปไอซ์แลนด์มานาน แต่ไม่เคยให้ความสำคัญ จนกระทั่งเพื่อนสนิทคนหนึ่งชักชวนให้ลองไปดู เธอเป็นคนวางแผนทริปส่วนใหญ่และทำให้ฉันตื่นเต้นกับการได้ชม น้ำตกสูงตระหง่าน น้ำพุร้อน ธารน้ำแข็ง และทุ่งลาวาของประเทศนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ไอซ์แลนด์ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินไม่ถึง 5 ชั่วโมงจากที่ฉันอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ
ทันทีที่มาถึง ฉันก็รู้สึกตกหลุมรักประเทศนี้ จุดเริ่มต้นของเราคือกรุงเรคยาวิก เมืองหลวงที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลก
ใจกลางเมืองเก่า มีถนนขนาดใหญ่ทาสีรุ้ง เป็นสัญลักษณ์งดงามและชัดเจนว่าที่ไอซ์แลนด์ทุกคนย่อมได้รับการต้อนรับ ถนนเส้นนี้ทำให้ฉันมีความสุขอย่างมาก
นอกจากการช้อปปิ้งและพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไอซ์แลนด์แล้ว บุคลิกของเมืองยังสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน
เมืองเก่าในไอซ์แลนด์เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์แปลกตา เช่น พิพิธภัณฑ์อวัยวะเพศชาย และพิพิธภัณฑ์พังค์ร็อกที่ตั้งอยู่ในห้องน้ำร้างใต้ดิน
สถานที่ท่องเที่ยวเฉพาะตัวของไอซ์แลนด์อื่น ๆ ก็อยู่ไม่ไกล เช่น การแสดงลาวาที่มีลาวาแดงร้อนจริง ๆ และพิพิธภัณฑ์เพอร์ลาน ที่มีถ้ำหิมะจำลองภายในอาคาร
ฉันรู้สึกทึ่งกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำได้ในเรคยาวิก ทั้งที่เมืองนี้ค่อนข้างเล็ก มีประชากรไม่ถึง 140,000 คน
ทริปของฉันยิ่งน่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้สัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ ในประเทศนี้มากขึ้น
แม้ว่าฉันจะอยู่ในเรคยาวิกอย่างมีความสุขได้ แต่ฉันก็ออกเดินทางไปสำรวจสิ่งอื่น ๆ ที่ไอซ์แลนด์มีให้สัมผัส
ฉันเริ่มต้นด้วยการแช่น้ำอุ่นที่สกายลากูน พร้อมกับทำพิธีกรรมหลายขั้นตอนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวทางดูแลสุขภาพแบบนอร์ดิกดั้งเดิม ชีวิตฉันเต็มไปด้วยความเครียดและยากที่จะผ่อนคลาย แต่หลังออกจากที่นั่น ฉันกลับรู้สึกสดชื่นและมีพลังขึ้นมาก
ฉันยังไปเยือนชายหาดสีดำที่มีเสาหินบะซอลต์สูงตระหง่านเกิดจากภูเขาไฟ ปีนธารน้ำแข็ง เดินไปหลังน้ำตกสูง และข้ามสะพานที่เชื่อมแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยุโรป
ตลอดการเดินทาง ฉันเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น ยากที่จะไม่รักประเทศที่คลั่งไส้กรอกและไอศกรีม แต่ฉันก็ประทับใจกับมื้ออาหารรสเลิศที่ได้ลิ้มลองในเรคยาวิกเช่นกัน
ขนมอบท้องถิ่นหลายชนิดอร่อยเกินคาด ดีกว่าที่ฉันเคยทานในปารีสเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนที่ฉันพบเจอในไอซ์แลนด์ 1 ในประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลก เป็นมิตรมาก ๆ และดูภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอประเทศของตน
ครั้งหนึ่ง ขณะที่เรายืนอยู่บนดาดฟ้าของร้านอาหาร มีคนถามฉันและเพื่อนว่าพวกเราคือนักท่องเที่ยวหรือไม่ ฉันตึงตัวและสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเราพยักหน้า พวกเขาก็พาเราไปยังส่วนสูงของดาดฟ้าอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งทำให้เห็นวิวที่งดงามยิ่งกว่าเดิม
อย่างไม่คาดคิด ฉันรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่ไอซ์แลนด์ ฉันหลงรักทั้งความตื่นเต้น อาหาร และผู้คนที่นั่น จนไม่อยากจากไป
หลังจากทริปนั้น ฉันกลับไปไอซ์แลนด์อีก 2 ครั้ง และยังวางแผนว่าจะกลับไปอีกแน่นอน
ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปไอซ์แลนด์อีก เพราะยังมีโลกอีกมากมายที่ฉันยังไม่ได้สัมผัส
แต่ทันทีที่กลับมาที่บ้านในวอชิงตัน ดี.ซี. ใจฉันก็โหยหาการกลับไปอีก ฉันปรารถนาทิวทัศน์กว้างใหญ่ เงียบสงบ และเปิดโล่ง ซึ่งต่างจากชีวิตประจำวันในเมืองใหญ่ที่วุ่นวายของฉันอย่างชัดเจน
เมื่อทริปครอบครัวที่วางแผนไว้ล้มเหลวอย่างไม่คาดคิด ฉันจึงตัดสินใจพาลูก ๆ ไปไอซ์แลนด์ ทั้งที่เพิ่งไปครั้งแรกมาเพียง 3 เดือนเท่านั้น
ครั้งนี้ฉันจองทริปล่องเรือสำรวจไปทางเหนือ เราได้เห็นนกพัฟฟินและวาฬ ข้ามเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล และปีนเขาและทุ่งลาวาที่งดงามจนดูเหมือนภาพฝัน
5 เดือนต่อมา ฉันเก็บเสื้อชั้นในแบบเบสเลเยอร์และกลับไปไอซ์แลนด์อีกครั้ง ฉันคลั่งไคล้ความคิดที่จะชมแสงเหนือและสัมผัสประสบการณ์ฤดูหนาวของประเทศนี้
ไอซ์แลนด์ดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อปกคลุมด้วยหิมะ และฉันได้เห็นแสงเหนือเพียงช่วงสั้น ๆ ในทริปนี้ ฉันได้สัมผัสชีวิตยามค่ำคืนของเรคยาวิก ตั้งแต่บาร์หรูบนดาดฟ้า ไปจนถึง Lemmy’s บาร์เฮฟวี่เมทัลที่ตั้งชื่อตามนักร้องนำของ Motörhead
สำหรับฉัน นี่เป็นหลักฐานยืนยันอีกครั้งว่าที่ไอซ์แลนด์มีสิ่งใหม่ ๆ ให้ค้นพบอยู่เสมอ และฉันก็วางแผนทริปกลับไปแล้ว
ครั้งหน้าฉันอยากจะเห็นการปะทุของภูเขาไฟด้วย"