ลูกชายหน้าตาดีผิดพ่อ ตรวจ DNA ระแวงเมียนอกใจ สุดท้าย "ย่า" เล่าความจริงสุดช็อก
ลูกชายหน้าตาดี ยิ่งโตยิ่งไม่เหมือนพ่อ ระแวงจนต้องตรวจดีเอ็นเอ สุดท้าย "ย่า" กระซิบความจริง คุกเข่าขอโทษเมีย
ครอบครัวของ เจิ่น วัน หุ่ง (Trần Văn Hùng) อายุ 35 ปี และภรรยา เหงียน ตู ฮันห์ (Nguyễn Thu Hạnh) อายุ 34 ปี จากจังหวัดนิญบิ่ญ ประเทศเวียดนาม พาลูกชายวัย 4 ขวบไปที่ศูนย์วิเคราะห์ดีเอ็นเอในกรุงฮานอย ขณะนั่งรอในห้องรับรอง คุณหุ่ง แสดงอาการเครียดอย่างไม่ปิดบังเมื่อต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสายเลือดระหว่างเขาและลูกชาย
เขาให้ข้อมูล ลงนามในแบบฟอร์ม และให้เก็บตัวอย่างเลือด พร้อมย้ำหลายครั้งว่าต้องการให้ศูนย์ “ตรวจสอบอย่างแม่นยำที่สุด” แม้เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผลตรวจจะจัดส่งทางไปรษณีย์ภายในวันรุ่งขึ้น เขาก็ยืนยันว่า“ผมจะมารับผลด้วยตัวเอง”
ความใจร้อนและสายตาที่จับผิดของเขาทำให้พนักงานศูนย์เดาได้ว่า สามีอาจสงสัยภรรยาไม่ซื่อสัตย์ เด็กชายที่มาด้วยไม่มีลักษณะเหมือนพ่อเลย ซึ่งทำให้คุณหุ่งทุกข์ใจมาหลายเดือน
สามวันต่อมา เขากลับมาที่ศูนย์เพื่อตรวจผล ผู้อำนวยการศูนย์ดีเอ็นเอ เป็นผู้แจ้งข่าวดีว่า เด็กชายเป็นลูกแท้ๆ ของเขา แต่กลับไม่ทำให้คุณหุ่งคลายความตึงเครียด เขาจ้องไปที่ผลตรวจ ก่อนหันไปมองภรรยาด้วยสายตาสงสัย
“ผมไม่เชื่อ มันเป็นไปได้อย่างไร?” เขาพูดเสียงเข้ม จากนั้นก็สงสัยว่าภรรยาคง “ติดสินบน” ศูนย์ตรวจดีเอ็นเอ แม้แต่ผู้อำนวยการศูนย์ก็ไม่รอดพ้นความสงสัยของเขา เมื่อเอาผลตรวจกลับบ้าน คุณหุ่งยังคงต่อว่าภรรยาในใจว่าอาจมีความลับบางอย่างอยู่เบื้องหลัง
ย่าเด็กเฉลยความจริง
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ขณะที่ภรรยาและลูกชายออกไปข้างนอก แม่ของเขาเข้ามาพูดคุยด้วย เธอเล่าอย่างเรียบ ๆ ถึงสมัยสาวกับความรักลึกซึ้งกับชายหนุ่มหล่อในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากฐานะยากจน แฟนหนุ่มไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว เธอจำเป็นต้องเลิกราและแต่งงานกับชายอีกคน ซึ่งเป็นสามีที่อ่อนโยน รักเมีย แต่รูปลักษณ์ธรรมดา
“ลูกเป็นผลลัพธ์จากความรักครั้งนั้น แม่ไม่อยากบอกเพราะคิดว่ามันผ่านมานานแล้ว” เธอสารภาพ
คุณหุ่งนิ่งไป ความสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับลักษณะลูกชายตอนนี้มีคำตอบแล้ว เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อ และลูกชายของเขายิ่งโตยิ่งเหมือนคนรักเก่าของแม่ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ
วันรุ่งขึ้น เขาคุกเข่าขอโทษภรรยา สำหรับคำพูดที่รุนแรงและความสงสัยที่มีต่อเธอ
ไม่ใช่ลูกทุกคนที่จะเหมือนพ่อแม่
ตามคำกล่าวของผู้อำนวยการศูนย์ดีเอ็นเอ นี่ไม่ใช่กรณีพิเศษ “ประมาณ 20% ของลูกค้าที่มาตรวจดีเอ็นเอพ่อ-ลูก เป็นเพราะสงสัยว่าลูกไม่เหมือนพ่อทางรูปลักษณ์”
ความจริงคือ แต่ละคนรับยีน 50% จากแม่และ 50% จากพ่อ แต่ลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างอาจปรากฏจากรุ่นปู่ย่าตายายหรือไกลกว่านั้น ไม่จำเป็นต้องตรงจากพ่อแม่โดยตรง
นอกจากนี้ สภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และโภชนาการก็มีผลอย่างมากต่อรูปร่างและบุคลิกของเด็ก ศาสตร์พันธุกรรมแสดงว่าลูกอาจไม่เหมือนใครในครอบครัวใกล้ชิดเลย แต่มีลักษณะจากบรรพบุรุษ”
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าพ่อแม่ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนสงสัยใคร เพราะแม้ผลตรวจดีเอ็นเอจะลบความสงสัยได้ แต่ไม่สามารถรักษาความเสียหายที่เกิดจากความสงสัยและอคติที่เกิดขึ้นได้
เก็บตัวอย่างเลือด