นัดฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 เดือนกันยายน 2568
เดือนกันยายน 2568 มีคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาอย่างน้อย 10 คดีแบ่งเป็นคดีในศาลชั้นต้น 7 คดี ชั้นอุทธรณ์ 2 คดีและชั้นฎีกา 1 คดี นอกจากคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สิบคดีแล้วยังมีคดีมาตรา 110 อีก 1 คดี ในวันที่ 5 กันยายน 2568 เวลา 9:00 น. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.778/2564 ของเอกชัย หงส์กังวาน 2บุญเกื้อหนุน เป้าทอง สุรนาถ แป้นประเสริฐและประชาชนอีก 2 คน ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าขัดขวางขบวนเสด็จพระราชินี ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563
3 กันยายน 2568 เวลา 9:00 น. ศาลจังหวัดภูเขียวนัดไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษาและครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ อ.224/2565 จากการปราศรัยประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในการชุมนุมหน้าโรงเรียนภูเขียวและ สภ.ภูเขียว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 คดีนี้วันที่ 13 กันยายน 2567 ศาลจังหวัดภูเขียวพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 112 จำคุกคนละ 3 ปี เพิ่มโทษไผ่กึ่งหนึ่ง กรณีทำผิดซ้ำภายหลังพ้นโทษภายในเวลาไม่เกิน 3 ปี จำคุกไผ่ 4 ปี 6 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกไผ่ 2 ปี 12 เดือน จำคุกครูใหญ่ 2 ปี ยกฟ้องในข้อหาตามมาตรา 116, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
4 กันยายน 2568 เวลา 9:30 น. ศาลอาญานัดแบงค์-ณัฐพลและต๊ะ-คฑาธร ฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1209/2567 กรณีโพสต์ภาพถือกระดาษข้อความหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ที่ 10 และพระราชินีเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 ตามคำฟ้องระบุว่า คืนวันที่ 15 มกราคม 2567 ทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดบริเวณระหว่างป้อมอนันตคีรีและประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ และนั่งลงบริเวณฟุตบาทข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง แล้วชูป้ายกระดาษที่เขียนข้อความรวม 2 แผ่น โดยสลับกันชูป้ายและถ่ายรูป
จากนั้นขับไปจอดที่พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 และพระราชินี ริมถนนบำรุงเมือง นั่งลงใกล้แท่นหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในมือชูป้ายกระดาษที่เขียนข้อความ 2 แผ่น สลับกันชูป้ายและใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูป ก่อนขับรถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณดังกล่าว ณัฐพลได้ขยำกระดาษทั้งสองแผ่นแล้วขว้างปาใส่พระบรมฉายาลักษณ์ ต่อมาทั้งสองได้ร่วมกันโพสต์ภาพพร้อมข้อความประกอบบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของทั้งสอง
8 กันยายน 2568 เวลา 9:30 น. ศาลอาญานัด “จ่อย” (นามสมมติ) ฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.904/2567 สืบเนื่องจากเหตุปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดง และถูกกล่าวหาว่าทำลายรูปพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อเดือนกันยายน 2564 ตามคำฟ้องระบุว่า จําเลยกับพวกที่มาร่วมชุมนุมได้ร่วมกันยิงหนังสติ๊กเข้าใส่พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 ที่ติดตั้งไว้บริเวณทางด่วนดินแดง และจุดไฟ ใช้ระเบิดขว้างเข้าใส่บริเวณฐานของพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 จํานวน 2 ป้าย, ป้าย วปร. จํานวน 2 ป้าย และป้ายทรงพระเจริญ จํานวน 1 ป้าย ซึ่งเป็นทรัพย์สินของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้เสียหาย จนเกิดเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณฐาน จากนั้นได้นําพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 มาฉีกจนขาด วางบนพื้นถนน เหยียบ แล้ววางเพลิงเผา จนพระบรมฉายาลักษณ์และแผ่นป้ายดังกล่าวได้รับความเสียหาย
8 กันยายน 2568 เวลา 10:00 น. ศาลอาญานัดลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.พรรคประชาชนและอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.595/2565 จากการโพสต์ #ราษฎรสาส์น จดหมายข้อความถึงกษัตริย์ ซึ่งมีเนื้อหาแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ เช่น การไปพักอาศัยในต่างประเทศ การโอนอัตรากําลังพลและงบประมาณไปเป็นส่วนราชการในพระองค์ การใช้จ่ายงบประมาณของสถาบันกษัตริย์ที่ฟุ่มเฟือย และการเลื่อนยศตำแหน่งให้กับข้าราชการและพลเรือน เป็นต้น
11 กันยายน 2568 เวลา 9:00 น. ศาลอาญานัดตั้ม-จิรวัฒน์ ฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ. 306/2567 กรณีถูกกล่าวหาเป็นแอดมินเพจ “คนกลมคนเหลี่ยม” วาดการ์ตูนล้อเลียนจำนวน 4 โพสต์ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน 2565 เช่น โพสต์เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 เป็นภาพการ์ตูนคล้ายรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 สนทนากัน และอีกช่องเป็นภาพคล้ายรัชกาลที่ 9 เล็งปืนยิงออกไป ซึ่งอัยการเห็นว่า ทำให้ประชาชนทั่วไปที่พบเห็นโพสต์ดังกล่าวเข้าใจว่า รัชกาลที่ 9 เป็นผู้ลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8
18 กันยายน 2568 เวลา 9:00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายนัดบอส-ฉัตรมงคล วัลลีย์ฟังคำพิพากษาฎีกาในคดีหมายเลขดำที่ อ.459/2565 กรณีคอมเมนต์ข้อความมีเนื้อหาหมิ่นกษัตริย์ฯ ในโพสต์ของเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า ศรีสุริโยไท คดีนี้ศาลชั้นต้นยกฟ้องเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานบุคคลและหลักฐานที่ยืนยันว่าจำเลยกระทำตามฟ้องจริง ต่อมาศาลอุทธรณ์กลับพิพากษาเห็นว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องสั่งจำคุก 3 ปีจำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษหนึ่งในสี่ เหลือจำคุก 27 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
29 กันยายน 2568 เวลา 13:30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดใบปอ-ณัฐนิชและเก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรงฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1208/2567 จากการอ่านแถลงการณ์ในการชุมนุม “WHAT HAPPENED IN THAILAND” ที่แยกอโศก ในช่วงการประชุมเอเปค (APEC2022) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 โดยใบปออ่านแถลงการณ์เป็นภาษาไทย มีเนื้อหาถึงผู้นำประเทศที่มาร่วมประชุมเอเปคให้ทราบถึงสถานการณ์ในประเทศไทยที่เงามืดของกองทัพและสถาบันกษัตริย์ยังคงทำให้เป็นประเทศเสมือนประชาธิปไตย ส่วนเก็ทอ่านแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษซึ่งมีเนื้อหาและความหมายเช่นเดียวกันกับแถลงการณ์ภาษาไทย
30 กันยายน 2568 เวลา 10:00 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์ฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.107/2568 จากการปราศรัยในการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2563 คดีนี้มีปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส. จังหวัดราชบุรี เป็นผู้ร้องทุกข์ เนื้อหาการปราศรัยเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์และการปกครองพระสงฆ์ เมื่อฟังแล้วเข้าใจว่า รัชกาลที่ 10 ทรงเข้าไปก้าวก่าย แทรกแซง แต่งตั้ง สั่งการ หรือแก้ไขบุคคลที่จะเป็นพระสังฆราช พระราชาคณะและมหาเถรสมาคม ยุ่งเกี่ยวกับการปกครองพระสงฆ์
30 กันยายน 2568 เวลา 9:30 น. ศาลอาญานัดบี๋-นิราภร อ่อนขาวฟังคำพิพากษาในดคีหมายเลขดำที่ อ.1342/2567 จากการถูกกล่าวหาเป็นแอดมินเพจ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” และโพสต์ข้อความ 3 โพสต์ระหว่างเดือนสิงหาคม 2563 ถึงตุลาคม 2564 หนึ่งในนั้นคือ โพสต์ข้อเรียกร้อง 10 ข้อของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563
30 กันยายน 2568 เวลา 9:00 น. ศาลจังหวัดธัญบุรีนัดลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็วฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1971/2565 จากการปราศรัยเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับผู้ต้องขังทางการเมือง หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า มีความผิดตามมาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี ลดโทษเหลือ 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา