ตลาดการเงินจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ จีดีพี-การส่งออกของไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย และ ธนาคารกสิกรไทย รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาขยับแข็งค่าขึ้น (หลังตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการหลังจากช่วงวันหยุดยาว) สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่ เงินดอลลาร์เผชิญแรงขายท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือน ก.ย. นี้ อนึ่ง เงินบาทยังรักษาช่วงบวกไว้ได้ต่อเนื่อง หลังการประชุม กนง. มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ไปที่ระดับ 1.50% ช่วงกลางสัปดาห์
อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงช่วงท้ายสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฟื้นตัวกลับมาโดยได้รับอานิสงส์จากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ ที่เพิ่มสูงกว่าที่ตลาดคาด
ในวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 32.24 ในระหว่างสัปดาห์) เทียบกับระดับ 32.33 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ส.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 7,764 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 7,219 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 6,079 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 1,140 ล้านบาท)
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 18-22 ส.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.10-32.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟดจากที่ประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือน ส.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ค. บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ก.ค. และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ของอังกฤษและยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือน ส.ค. ของอังกฤษและยูโรโซนด้วยเช่นกัน