"หมอมิ้ง" เผย ส่งคำชี้แจงศาลรธน.คดีคลิป"นายกฯ"แล้ว ปัดข่าว"อิ๊งค์" ชิงลาออก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผย กรณีส่งคำชี้แจงเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญ คดีคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ภายหลังขอขยายกรอบเวลาครั้งที่ 2 ออกไปถึงวันที่ 4 ส.ค.เป็นวันสุดท้าย ว่า เอกสารต่างๆพร้อมแล้ว ซึ่งตนได้เซ็นออกไปเมื่อสักครู่นี้ หลังจากที่นายกฯได้ลงนามไว้ ตัวแทนของนายกฯกำลังเดินทางไปส่งที่ศาล เมื่อถามว่ามั่นใจในคำชี้แจงมากน้อยแค่ไหน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจในสถานการณ์ต่างๆที่จะทำให้ประเทศพ้นจากภัยวิกฤตในเรื่องของความรุนแรง ซึ่งถือเป็นเจตนาสำคัญ
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ต่างๆที่ทหารได้ชี้แจงกับทางการทูตและที่กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ.และสถานการณ์ต่างๆค่อยๆคลี่คลาย ซึ่งความพยายามที่จะให้เกิดความรุนแรงในฐานะที่นายกฯเป็นผู้นำจะต้องมีการหารือกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายทหาร กองทัพอย่างรอบคอบ อย่างที่เราได้ออกมาตรการต่างๆออกไปแล้ว ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้จะเห็นว่ามีการโทรศัพท์หารือกับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้แทนทางการ เพื่อหาวิธีการที่จะขจัดความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดจากการปะทะให้ผ่านพ้นไปได้ในที่สุดก็ยังสามารถยืดระยะเวลาได้ช่วงหนึ่ง และในที่สุดก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ อธิปไตยของเราถูกละเมิด ทางทหารเราต้องดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อรักษาอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยอย่างสมเกียรติ และหลังจากนั้นเราก็พยายามที่จะยุติเรื่องของการหยุดยิงไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนหรือให้เดือดร้อนน้อยที่สุด แต่เราต้องรักษาอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ให้ได้โดยการหารืออย่างใกล้ชิดกับทางทหาร
“ดังนั้นผมเห็นว่าเจตนาของนายกฯเป็นสำคัญที่จะพยายามดำเนินเรื่องนี้ในฐานะผู้นำประเทศ ขณะนี้เนื่องจากทางศาลบอกให้นายกฯพักการปฏิบัติหน้าที่ นายกฯก็เคารพศาล ก็ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่อย่างดี เพื่อรอคำวินิจฉัยของศาล ก็หวังว่าคำตัดสินต่างๆจะดำเนินการตามเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น ในฐานะผู้นำประเทศที่จะนำประเทศไปสู่ความสันติโดยเร็ว” นพ.พรหมินทร์ระบุ
เมื่อถามว่า จากสิ่งที่เราชี้แจงไปหากดูตามข้อกฎหมายเข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ข้อเท็จจริงบวกกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆได้ชี้แจงอย่างรอบคอบ คำชี้แจงของนายกฯระบุในการแก้ข้อกล่าวหาต่างๆที่พูดถึงเรื่องจริยธรรมอย่างชัดเจน มีการอ้างถึงตัวบทกฎหมายไว้ด้วย ดังนั้นต้องแล้วแต่ศาลว่าจะวินิจฉัยอย่างไร เมื่อถามว่าได้เตรียมมาตรการรองรับหรือไม่หากผลการตัดสินออกมาไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปอย่างที่คาดคือขณะนี้เราคาดการณ์ว่าเจตนารมณ์ของเราถูกต้อง ก็หวังว่าจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม ดังนั้นก็รอคำตัดสินของศาล
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาศาลได้มีให้นายกฯไปชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ปกติเราทำคำชี้แจงไปก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณาอย่างไร หรือดำเนินการอย่างไรต่อ แต่เท่าที่ตนเคยหาข้อมูลไว้เบื้องต้นคือศาลคงจะต้องส่งให้ผู้ฟ้องก่อน เพื่อดูว่าคำร้องหรือคำแก้ต่างๆเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งศาลต้องพิจารณาทั้งส่วนของทางศาลเองด้วย
เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายกฯอาจตัดสินใจลาออกจริงหรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ยืนยันว่ายังไม่มี วันนี้ไม่มีเพราะเราดำเนินการตามตัวบทกฎหมาย และยืนยันความถูกต้องของเรา เมื่อถามถึงในส่วนของคดีอาญาที่อัยการจะมีการเชิญนายกฯไปด้วย นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ก็เดี๋ยวว่ากันไปตามขั้นตอน ขณะนี้ถ้ามีตรงไหน ถ้ามีการร้องจริง ก็คงต้องไปแก้ข้อกล่าวหาตามตัวบทกฎหมาย แต่ยืนยันเจตนารมณ์และวิธีการต่างๆไม่ได้มีอะไรผิดเลย
น.พ.พรหมินทร์ กล่าวถึงขั้นตอนของรัฐบาลภายหลังมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เพื่อรับมือมาตรการภาษีสหรัฐอเมริกา ว่า วันนี้บ้านเมืองเราได้ผ่านวิกฤตเบื้องต้นคือ 1.การรบที่ชายแดน เพราะมีการหยุดยิงและมีความสงบกลับมา ซึ่งเชื่อว่าการประชุมจีบีซีจะเป็นการเริ่มต้นเพื่อพูดคุยแก้ปัญหา 2.วิกฤติการเจรจาภาษีทรัมป์ ซึ่งเป็นวิกฤติของหลายประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเราได้ข้อยุติที่สำคัญ ที่เป็นประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจ
นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ยืนยันว่าหน้าที่ของรัฐบาลยังไม่จบ เพราะเมื่อผ่านพ้นวิกฤติและเมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนก็สามารถดำเนินการ ไทยก็สามารถดำเนินการค้า และเปิดตลาดได้มากขึ้น สามารถส่งออกเทียบเคียงได้กับคู่แข่ง ไม่มีอะไรเสียเปรียบและได้เปรียบกว่าบางประเทศเสียอีก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลแก้ไขโครงสร้าง นาทีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่จะพาประเทศมองไปข้างหน้า และประชาชนทั้งประเทศต้องรวมใจกันเป็นหนึ่ง วันนี้ศัตรูของเราไม่ใช่คนในประเทศ แต่ต้องรวมใจกันฟันฝ่าและมองถึงอนาคต เมื่อผ่าน 2 วิกฤตินี้ ที่ถือว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ก็จะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
เมื่อถามว่า ได้มีการประสานไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการพิจารณาข้อตกลงภาษีสหรัฐฯ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ได้มีการชี้แจงเบื้องต้นแล้วว่าเป็นมติครม.เป็นกรอบในการเจรจา ซึ่งดำเนินการต่อไปแน่นอน และเมื่อผ่านความเห็นของสภาก็จะเป็นการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย