ก.ท่องเที่ยวฯ จับมือ วธ. จุดพลังท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมดัน “มรดกไทย” สู่ “มรดกโลก”
ก.ท่องเที่ยวฯ จับมือ วธ.จุดพลังท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดันมรดกไทยสู่มรดกโลก หนุนไทยขึ้นแท่น Tourism Hub ระดับโลกอย่างยั่งยืน
กรุงเทพฯ – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมแสดงความร่วมมือบูรณาการการทำงานระหว่าง 2 กระทรวง เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสู่เศรษฐกิจการท่องเที่ยวยุคใหม่ โดยมุ่งผลักดันแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมไทยสู่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (World Heritage) ควบคู่กับการต่อยอด Soft Power ด้านวัฒนธรรม เทศกาลประเพณี และภาพยนตร์ ให้กลายเป็นจุดแข็งและจุดขายบนเวทีโลก พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการจูงใจทางภาษี Cash Rebate เพื่อกระตุ้นการลงทุนในภาคท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ สะท้อนศักยภาพประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่ครบเครื่องทุกมิติ พร้อมก้าวสู่การเป็น Tourism Hub ระดับโลกอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2568
ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินหน้ามุ่งยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ด้วยความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. รวมทั้ง หน่วยงานภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม อาทิ กรมศิลปากร สถาบันบัณฑิต พัฒนศิลป์ สำนักงานศิลปะร่วมสมัย กรมการศาสนา โดยจะร่วมกันขยายผลการส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เพชรบุรี และสุพรรณบุรี ผ่านการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่ชูอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นได้อย่างน่าสนใจ พร้อมสนับสนุนและยกระดับเทศกาลท้องถิ่นที่มีศักยภาพ หรืออีเวนต์ Signature Thailand สู่ระดับโลก อาทิ ประเพณีไหลเรือไฟ นครพนม ประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี เเละแห่ดาวคริสต์มาส สกลนคร
การประชาสัมพันธ์มรดกศิลปวัฒนธรรม ทั้งโบราณสถาน ศิลปวัตถุ นาฏศิลป์ หัตถศิลป์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เป็นที่รับรู้สู่นานาชาติ ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พร้อมส่งเสริมศิลปินไทยให้เติบโตในระดับสากล ตลอดจนพัฒนาและยกระดับมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกและการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงวัฒนธรรมให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ และการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการยกระดับความปลอดภัย
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมตั้งเป้าหมาย นำเสนอมรดกไทยสู่ World Heritage เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้การท่องเที่ยว โดยประเทศไทยมีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโกแล้ว 6 รายการ และมรดกโลกทางวัฒนธรรม 5 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้ายกระดับแหล่งมรดกไทยให้เป็นจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เปลี่ยนมรดกให้เป็นพลังเศรษฐกิจ นำไปสู่การกระจายรายได้และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศในทุกมิติ โดยในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะร่วมทำประชาสัมพันธ์และเพิ่มเติมในส่วนของมรดกโลกทางธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร–ห้วยขาแข้ง / กลุ่มป่าดงพญาเย็น–เขาใหญ่ / กลุ่มป่าแก่งกระจาน อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ทั้งสองกระทรวงยังร่วมขับเคลื่อนมาตรการจูงใจทางภาษีและ Cash Rebate ในมิติของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและภาพยนตร์สำหรับผู้ผลิตไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลงทุนผลิตผลงานคุณภาพได้มากขึ้น สร้างงานสร้างรายได้ในพื้นที่ และรวมทั้งใช้สื่อภาพยนตร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งออกอัตลักษณ์ ความงดงามของประเทศไทยให้โลกได้รู้จัก โดยจะมีการบูรณาการกับผู้ผลิตในการพัฒนาคอนเทนต์ร่วมสมัยที่ถ่ายทอดคุณค่าทางวัฒนธรรมไทย ควบคู่กับการส่งเสริมองค์ความรู้และแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย
ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงพลังของการบูรณาการระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านมิติของวัฒนธรรม เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Tourism Hub ระดับโลกต่อไป