จี้! DSI รับคดี “หมอบี – วัดพระบาทนํ้าพุ” เป็นคดีพิเศษ
"ทนายรัชพล" และ "สท.ต๊ะ" อดีตนักข่าวถูกถล่มยิงหลังทําข่าวโยงวัดดัง จ.ลพบุรี ร้อง ดีเอสไอ รับคดีหมอบี-วัดพระบาทนํ้าพุ เป็นคดีพิเศษ
วันนี้(20 ส.ค. 68) ทนายรัชพล ศิริสาคร พร้อมด้วย นายตภิกฤษ พวงกุหลาบ หรือ สท.ต๊ะ อดีตผู้สื่อข่าวที่ถูกยิงถล่มบ้านหลังทําข่าวโยงคดีวัดดัง เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนเรื่องหมอบีกับวัดพระบาทน้ำพุเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่สนใจของประชาชน แต่ปัจจุบันเป็นข่าวหลายวันแล้วยังไม่มีความคืบหน้าเกรงว่าหากพบผิดจริงอาจจะไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ จึงมาขอให้รับเป็นคดีพิเศษ
โดย นายตภิกฤษ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2564 ตนเองได้นําเสนอเกี่ยวกับเรื่องการตั้งข้อสังเกตบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดินซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับมูลนิธิหรือวัด หลังจากนั้นได้รับการประสานจากตํารวจที่สนิทว่าให้ระวังตัว จากนั้นเพียง 10 วัน มีคนร้ายบุกมาก่อเหตุยิงถึงบ้าน จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าโขลง
แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ตนเองจึงนําเรื่องมายื่นให้ทางดีเอสไอเพื่อร้องขอให้ดําเนินการตรวจสอบบุคคลหรือผู้เกี่ยวข้องครอบครองอสังหาริมทรัพย์และที่ดินซึ่งก็ไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน แต่ตลอดระยะเวลาที่มีการพูดคุยกับทางดีเอสไอพบว่ามีการออกเลขสืบและรายงานเป็นระยะๆก่อนจะทราบภายหลังว่ามีส่งเรื่องไปให้ทางจังหวัดดําเนินการต่อ
ส่วนจะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายตภิกฤษ ระบุว่า ไม่สามารถตอบได้แต่ตอนที่รับสายจากตํารวจคนสนิทมีการบอกว่าคนสนิทของเจ้าอาวาสวัดดังได้ให้ตํารวจสืบจังหวัดนายหนึ่งหาข้อมูลที่อยู่ของตนเอง เบื้องต้นมีการสอบสวนนายตํารวจคนดังกล่าวแล้วเจ้าตัวรับสารภาพคนสนิมของเจ้าอาวาสให้เช็คประวัติของตนเองจริง จากนั้นเขาถูกย้ายไป 1 เดือน และก็กลับมาที่เดิม
เมื่อถามว่าเหตุใดเชื่อว่าเหตุยิงหน้าบ้านเกิดจากการทําข่าวเรื่องวัด ทาง นายตภิกฤษ กล่าวว่า ไม่มีชนวนเหตุอื่นมีเรื่องนี้เรื่องเดียวประกอบกับระยะเวลาค่อนข้างที่จะสอดคล้องกับเรื่องราวต่างๆ ส่วนบุคคลที่ครอบครองทรัพย์สินวัดที่ตนเองตั้งข้อสังเกตก็คือกลุ่มที่ปรากฏอยู่ในข่าวปัจจุบัน ทั้งนี้ตนอยากขอดูเอกสารที่เคยยื่นไว้เมื่อปี 64 ถ้าดีเอสไอไม่รับดําเนินการต่อตนเองจะได้พิจารณาไปยื่นเรื่องให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่มีรายงานจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เคยดูแลคดีดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า คดีนี้ได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าวลงไปทำการสืบสวนสอบสวน พบว่าผู้ก่อเหตุเป็นมือปืนมืออาชีพและอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยล่าสุดในห้วงของการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ทราบความคืบหน้าว่าขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนในประเด็นแรงจูงใจต่างๆกับผู้เสียหาย
โดยพบว่าประเด็นเรื่องการเปิดโปงข้อมูลของวัดดังในจังหวัดลพบุรีเป็นหนึ่งในประเด็นที่ตำรวจสนใจแต่ยังมีอีกหลายประเด็นแรงจูงใจที่อาจเป็นสาเหตุของ มือปืนในครั้งนี้ เนื่องจากพบว่าผู้เสียหายมีลักษณะเป็นนักข่าวสายฮาร์ดคอร์ ซึ่งอาจมีการกระทบกระทั่งกับแหล่งข่าวหรือบุคคลในข่าวที่เคยมีปัญหากัน จึงต้องตรวจสอบบุคคลต่างๆเพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุรวมถึงผู้สั่งการและมือปืนต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews