โบรกประสานเสียง กนง. วันนี้ลดดอกเบี้ยแน่!

หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.กรุงศรี ระบุ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) บ่าย 14.00 น.วันนี้ คาดลดดอกเบี้ย 25 bps มาที่ 1.5% สอดคล้องกับนักเศรษศาสตร์ 14 ท่านจาก 23 ท่าน คาดลด 25 bps ในรอบนี้ผสานกับมุมมอง Offshore คาดโอกาสดอกเบี้ยลง อิง Thai Bond yields ปรับลงต่อเนื่อง อายุ 1 ปีลงมาที่ 1.386% และต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% กลยุทธ์เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยลง เน้น ADVANC, CPALL, GULF, KTC, MTC,AP

ประชุม กนง. ตลาดเก็ง มีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยฯ 25 bps มาที่ 1.5% (อิงผลสำรวจล่าสุด นักวิเคราะห์ 14 คน จาก 23 คน คาดโอกาสลดดอกเบี้ย 25 bps) KSS และ Krungsri research มีมุมมองในทางเดียวกัน โดยมีเหตุผลหนุนทั้งเงินเฟ้อไทยยังติดลบ ก.ค. -0.7% และภาคส่งออกไทยได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ ฯลฯ Note Krungsri Research คาดช่วงที่เหลือของปีนี้ คือ ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 50 bps

มุมมอง Offshore คาดโอกาสดอกเบี้ยลง อิง สัญญาณชี้นำดอกเบี้ยลง คือ Thai Bond yields 1 ปี ล่าสุดลดลงต่อเนื่องมาที่ 1.386% ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ผสานกับเช้านี้ต่างชาติซื้อตราสารหนี้รวม 1201 ล้านบาท

ทุกๆ ดอกเบี้ยที่ลดลง -25 bps จะบวกต่อ SET ราว 50-55 จุด

KSS ประเมินหาก กนง. คงอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ คาดมติจะไม่เป็นเอกฉันท์ และมีโอกาสที่จะส่งสัญญาณ Dovish หรือสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยในรอบถัดไป ประเมินตลาดอาจจะพักตัวระยะสั้น และมีโอกาสปรับขึ้นในช่วงถัดไป ประเมินแนวรับ 1,258-1,245 จุด

กลยุทธ์ : กระแสดอกเบี้ยไทยมีโอกาสที่ปรับลงในการประชุม เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยลง เน้น ADVANC, CPALL, GULF, KTC, MTC,AP

บล.พาย ระบุ ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะทราบผลทางการในช่วง 14.00 น. ข้อมูลจาก Bloomberg Consensus เชื่อว่าที่ประชุมจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% โดยสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ราว 23 ท่าน พบว่าจำนวนเสียงราว 14 ท่านเชื่อว่าจะปรับลดดอกเบี้ยและอีก 9 ท่านเชื่อว่าจะคงดอกเบี้ยระดับเดิม จากข้อมูลข้างต้นพบว่าเสียงค่อนข้างก้ำกึ่งระหว่างลดกับไม่ลด ไม่ไปทางใดทางหนึ่งอย่างมีนัยยะ

แต่ความเห็นของบล.พาย เชื่อว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เนื่องด้วยเงินเฟ้อไทยที่ต่ำ (ล่าสุด -0.7%YoY) และมีแนวโน้มว่าจะติดลบต่อเนื่องเพราะราคาน้ำมันที่อยู่ระดับต่ำผสานกับค่าไฟฟ้าที่ปรับลง (FT) ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำและในช่วงถัดไปมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำลงกว่าครึ่งปีแรกเพราะว่าส่งออกได้เร่งไปก่อนหน้าแล้ว

ในขณะที่การท่องเที่ยวยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีน ข้อมูลล่าสุดพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่ช่วง 1 ม.ค. – 10 ส.ค. สะสมที่ 20.19 ล้านราย (-6.9%YoY) และหากพิจารณาเป็นรายสัปดาห์จะพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมขยายตัวเล็กน้อย 7%WoW โดยนักท่องเที่ยวจีนกลับมาขยายตัว 5%WoW มาเลเซียขยายตัว 11%WoW มองเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นเพราะหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังลดลง แต่อย่างไรก็ตามการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นปัจจัยหนุนต่อกลุ่มการเงิน (MTC SAWAD)

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดว่า มีความเป็นไปได้ประมาณ 60% ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายภายใต้การนำของดร.เศรษฐพุฒิ ผลจากเศรษฐกิจที่ชะลอลงต่อเนื่อง (พิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุด) และความเสี่ยงเงินฝืดที่มีมากขึ้น (เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 4 เดือนติด) รวมถึงเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ 19%

ขณะที่หนี้ครัวเรือนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตาม หากไม่ลงดอกเบี้ย (ความน่าจะเป็น 40%) คณะกรรมการอาจใช้เหตุผลว่า ต้องการให้ กนง. ชุดใหม่มีช่องว่างนโยบาย (Policy space) เพิ่มเติม

นอกจากนั้นมองว่า เมื่อผู้ว่าการฯ คนใหม่ วิทัย รัตนกร เข้ามาในเดือนตุลาคม 2568 จะมีนโยบายผ่อนคลายมากขึ้น โดยเน้นสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจแทนการควบคุมหนี้ครัวเรือน