บำนาญชราภาพประกันสังคม สูตรใหม่ CARE เตรียมเปิดรับฟังความเห็น
ตามที่คณะกรรมการประกันสังคม ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพ ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) โดยมีผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ผู้แทนจากองค์กรภาครัฐ และผู้แทนสำนักงานประกันสังคม โดยมีระยะเวลาในการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการศึกษาถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) เผยถึงความคืบหน้าการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) เพื่อเดินหน้าการพัฒนาสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับเงินบำนาญชราภาพ ด้วยการ ปรับเปลี่ยนวิธีคำนวณสูตรบำนาญชราภาพเป็นสูตร CARE (Career-Average Revalued Earnings)ว่า
ล่าสุด จากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกันตน เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 เป็นไปอย่างรอบคอบ และตรงตามกลุ่มเป้าหมาย เป็นธรรมต่อผู้รับบำนาญ
จะดำเนินการสอบถามความคิดเห็นในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2568 ในที่ประชุมฯ จึงขอเสนอขยายระยะเวลาคณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568
ในที่ประชุมฯ ได้กล่าวถึงมติคณะกรรมการประกันสังคม (ชุดที่ 14) ครั้งที่ 16/2568 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ว่า คณะกรรมการประกันสังคมได้เห็นชอบในหลักการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ตามที่คณะอนุกรรมการศึกษาและปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) เสนอเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนแปลง โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ปรับวิธีคำนวณเงินบำนาญชราภาพ จากเดิมใช้ฐานเงินสมทบ 60 เดือนสุดท้ายเปลี่ยนเป็นใช้ฐานเงินสมทบเฉลี่ย 180 เดือนสุดท้าย เพื่อสะท้อนรายได้ที่แท้จริงของผู้ประกันตน
2. ปรับกติกาเปลี่ยนผ่าน กรณีคำนวณบำนาญชราภาพสูตรใหม่ได้น้อยกว่าสูตรเดิม เห็นควรกำหนดระยะ 5 ปี โดยผู้ที่เกษียณภายในปีที่ 1 หลังแก้ไขกฎหมายให้ชดเชยส่วนต่าง 100% และลดหลั่นลงปีละ 20% โดยปีที่ 2 ชดเชย 80%, ปีที่ 3 ชดเชย 60%, ปีที่ 4 ชดเชย 40%, ปีที่ 5 ชดเชย 20%
3. กำหนดแนวทางการจ่ายบำนาญชราภาพใหม่ ใช้ระบบ “คะแนนบำนาญชราภาพ (Pension Point) โดยคิดจากค่าจ้างของผู้ประกันตนที่นำส่งเงินสมทบ ประกอบกับมีการปรับค่าบำนาญตามดัชนีค่าครองชีพ (CARE) เพื่อให้ทันต่อสภาพเศรษฐกิจ
4. มีเป้าหมายการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ เพื่อสร้างความมั่งคงและเป็นธรรมแก่ผู้ประกันตนเมื่อต้องพึ่งพารายได้หลังเกษียณอายุให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
5. มติคณะกรรมการประกันสังคม เห็นชอบข้อเสนอของตามที่คณะอนุกรรมการศึกษาฯ ให้มีการปรับเพิ่มฐานค่าจ้างมาตรา 39 อย่างต่อเนื่องตามค่าเงินที่เปลี่ยนไป เพื่อให้สอดคล้องกับคิดบำนาญสูตร CARE
6. ให้สำนักงานประกันสังคมจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์การบริหารความยั่งยืนทางการเงิน (Funding Strategy) นำเสนอให้คณะกรรมการประกันสังคมพิจารณากำหนด Funding Strategy โดยรวมถึงแนวทางปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบภายในปี 2570 เพื่อครอบคลุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับสูตรบำนาญชราภาพ
ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า เพื่อสร้างการรับรู้เพิ่มความเข้าใจในการปรับสูตรบำนาญผ่านช่องทางต่างๆ ขณะนี้คณะอนุกรรมการศึกษา และปรับปรุงสูตรการคำนวณบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 (เฉพาะกิจ) ได้สร้างเครื่องมือทดสอบการคำนวณ (Pension Calculator) ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้าไปคำนวณค่าบำนาญสูตร CARE เบื้องต้น ได้ที่ https://sso.thaith.ai/care/
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เล็งเห็นความสำคัญในการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีบำนาญชราภาพสูตรใหม่ CARE ยึดหลักความสอดคล้องทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงินของกองทุนประกันสังคมที่มั่นคง เพื่อเพิ่มการดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ในช่วงวัยเกษียณ ซึ่งจะมีการขยายความคุ้มครองกรณีชราภาพไปยังผู้ประกันตนมาตรา 40 ทุกทางเลือก เพื่อให้ครอบคลุมและได้รับสวัสดิการประกันสังคมอย่างเพียงพอในการดำรงชีวิต