โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 14 ส.ค.68 ‘ทรงตัว‘ จับตาเฟดลดดอกเบี้ย

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า "ค่าเงินบาทวันนี้"เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.40 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมาเงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ในลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.23-32.33 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกันของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำ

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ “ลดดอกเบี้ย 0.25%” สู่ระดับ 1.50% ตามที่ตลาดคาด จะเห็นได้ว่า เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แม้มติดังกล่าวของ กนง. จะมีส่วนหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น

ทว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติต่างขายหุ้นไทยออกมา คิดเป็นการขายสุทธิราว 6.7 พันล้านบาท สะท้อนว่า ผลการประชุม กนง. ดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ ปัจจัยหลักหนุนการแข็งค่าของเงินบาท คือ การทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำหลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดบ้าง ซึ่งบางส่วนก็เริ่มคาดหวังว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน นี้

อนึ่ง การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทยังคงเป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในจังหวะย่อตัว นอกจากนี้ เรามองว่า การปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ (นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงราว -10%) อาจทำให้มีโฟลว์ธุรกรรมที่เกี่ยวกับน้ำมันดิบ อาทิ Buy on Dip น้ำมันดิบ เข้ามาช่วยชะลอการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท

แนวโน้มค่าเงินบาท

แนวโน้มค่าเงินบาท เรายอมรับว่า โมเมนตัมการแข็งค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ในช่วงนี้ ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด ตราบใดที่ ผู้เล่นในตลาดไม่ได้ปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเราประเมินว่า จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและปัจจัยในระยะสั้นนี้ อาจยังไม่สามารถทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญได้

เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจต้องการรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงานสัมนาวิชาการประจำปีของเฟด ที่เมือง Jackson Hole, Wyoming รวมถึงรอลุ้น รายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะรับรู้ในช่วงต้นเดือนกันยายน ทำให้ในระยะสั้นนี้ เรามองว่า แม้เงินบาทจะมีความเสี่ยง Two-way risk (พร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง) แต่เราอาจมองว่า เงินบาทเสี่ยงอ่อนค่าลงได้บ้าง ในกรณีที่ ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับด้านเงินเฟ้อ อย่าง ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI รวมถึง อัตราเงินเฟ้อ PCE และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (Manufacturing & Services PMIs) ที่จะรับรู้ก่อนข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี หากเงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดและมีแนวโน้มจะติดแถวโซนแนวต้านตั้งแต่โซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ จนถึงโซน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งต้องลุ้นข้อมูลการจ้างงานใหม่ของสหรัฐฯ หรือเงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม จากปัญหาความวุ่นวายการเมืองในประเทศ (ซึ่งเรามองว่า โอกาสเกิดภาพดังกล่าวก็มีไม่มากนัก)

ทั้งนี้ เรามองว่า ควรจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองคำและสกุลเงินเอเชีย อย่าง เงินหยวน (CNY) เนื่องจากทั้งสองสินทรัพย์ เคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาทในระดับสูงพอสมควร (High correlation) โดยในฝั่งของราคาทองคำนั้น อาจพอประเมินได้ว่า ถ้าการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) ถูกจำกัดไว้แถวโซนแนวต้าน เช่น โซน 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การแข็งค่าของเงินบาทก็จะเป็นไปอย่างจำกัดได้

เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มุมมองการลงทุนทั่วโลก

บรรยากาศตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงได้แรงหนุนจากความหวังว่า เฟดอาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยตั้งแต่การประชุม FOMC เดือนกันยายน และมีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยได้ราว 2-3 ครั้ง ในปีนี้ ส่งผลให้ ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.32%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.54% หนุนโดยความหวังต่อแนวโน้มการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด รวมถึง ความหวังต่อแนวโน้มการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่จะมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลางในการช่วยเจรจา นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ที่ออกมาสดใส ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนบรรยากาศตลาดหุ้นยุโรป

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลง เข้าใกล้โซน 4.23% ตามการปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็เริ่มมองว่า เฟดอาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ย 50bps ในการประชุม FOMC เดือนกันยายน อนึ่ง เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดได้คาดหวังแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดไปพอสมควร ทำให้ควรระวังความเสี่ยงที่ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้นต่อได้บ้าง หากตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หรือบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง โดยเราคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้ เนื่องจากเราคงคาดการณ์ว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวลดลง ตามการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด (คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยจนถึงระดับ 3.00-3.25%)

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แม้จะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าตามการปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ทว่า การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI รวมถึง รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของสหรัฐฯ ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวแถวระดับ 97.7 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 97.6-97.9 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ แม้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะทยอยปรับตัวลดลงบ้าง ตามการปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ทว่า บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ของตลาดการเงินสหรัฐฯ ได้จำกัดการปรับตัวขึ้นราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) ทำให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวแถว โซน 3,410-3,420 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะช่วยสะท้อนถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ PCE ที่เฟดติดตามได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) เพื่อประเมินภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ล่าสุดผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 จากทั้งอังกฤษและยูโรโซน พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม พัฒนาการของแนวโน้มการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

และในฝั่งเอเชีย ช่วงราว 6.50 น. ของเช้าวันศุกร์ 15 สิงหาคม นี้ ตามเวลาประเทศไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ผ่านรายงานอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

Gold Futures : บล.โกลเบล็ก ราคาทองวันนี้ 3,360.66 U$/ทรอยเอาน์ซ

14 นาทีที่แล้ว

‘รัฐบาล’ ฟ้องโลก ‘กัมพูชา’ ใช้ทุ่นระเบิด ลั่น เดินหน้าเต็มกำลัง

25 นาทีที่แล้ว

ลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งแรงหนุนอสังหาฟื้นเชื่อมั่น-กำลังซื้อ

34 นาทีที่แล้ว

‘แพทองธาร’ เผย วันเกิด ตรงกับ ‘ศาลรธน.’ นัดไต่สวน คดีคลิป ฮุน เซน 21ส.ค.

37 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

K.W. Metal Work ใช้ Salesforce ผสานข้อมูลเกษตรกรด้วย Data Cloud ปูรากฐานสู่อนาคต Agentic AI

Share2Trade

Gold Futures : บล.โกลเบล็ก ราคาทองวันนี้ 3,360.66 U$/ทรอยเอาน์ซ

กรุงเทพธุรกิจ

จับตาคดี “แพทองธาร” นักวิเคราะห์คาด “ลาออก หรือ ยุบสภา” ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความผิด

Share2Trade

A5 ไตรมาส2กำไร 70.88 ล้าน เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เสริมทัพ

หุ้นวิชั่น

TKS กำไรครึ่งปีแรกที่89ล้าน อนุมัติปันผลที่ 0.10 บ./หุ้น

หุ้นวิชั่น

SISB รายได้ Q2/68 แตะ 623.14 ลบ. เติบโตต่อเนื่อง รับผลดีจำนวนนักเรียนรวมครึ่งปีแรก 4,653 คน ปักธงผู้นำการศึกษาคุณภาพดี - เข้าถึงได้

Share2Trade

PLUS โชว์ฟอร์ม Q2/68 พลิกกำไร รับดีมานด์ตลาดอเมริกา ส่งซิกครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง ดัน Co-Brand วางขายใน Walmart

Share2Trade

แบงก์พาเหรด ลดดอกเบี้ยเงินกู้ตามกนง. 0.25% 'ออมสิน-กรุงไทย' ตรึงดอกฝาก

ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...