จับตาการเมืองในประเทศ คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 31.80-32.80 บาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นช่วงแรกจากแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ แต่อ่อนค่ากลับมาบางส่วนท้ายสัปดาห์
เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สวนทางเงินดอลลาร์ ที่ยังเผชิญแรงขายต่อเนื่อง หลังสัญญาณของประธานเฟดที่ Jackson Hole หนุนความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้
นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงต่อมาสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ และราคาทองคำในตลาดโลก (ที่ปรับขึ้นเหนือแนว 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง) เนื่องจาก Sentiment ของเงินดอลลาร์ถูกกดดันมากขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความเป็นอิสระของเฟด แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งจีดีพีไตรมาส 2 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ จะออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดก็ตาม
อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่ากลับมาบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงขายสุทธิหุ้นไทยของต่างชาติ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส. แพทองธาร สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี
ในวันศุกร์ที่ 29 ส.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.39 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 ส.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 25-29 ส.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 12,393 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 2,625 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 3,126 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 501 ล้านบาทตามลำดับ)
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 1-5 ก.ย. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 31.80-32.80 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยการเมืองในประเทศ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ของไทย ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM และ PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือน ส.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.ค. รายงาน Beige Book ของเฟด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน ส.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน