รพ.จุฬาฯ ใช้เทคโนโลยี Impella System เครื่องปั๊มหัวใจที่เล็กที่สุดในโลก ช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจ
อาจารย์แพทย์หญิงศิริพร อธิสกุล อายุรแพทย์โรคหัวใจ หัวหน้าห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ภาวะหัวใจขาดเลือดหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นอันตรายที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นเฉียบพลัน และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ในประเทศไทย โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ การสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระดับไขมันในเลือดสูง การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการขาดการออกกำลังกาย อาการที่สำคัญคือเจ็บแน่นหน้าอก ซึ่งอาจร้าวไปบริเวณอื่นร่วมด้วย เหนื่อยง่ายผิดปกติและหายใจลำบาก ภาวะหัวใจขาดเลือดอาจพบร่วมกับภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและอาจทำให้เกิดภาวะช็อกได้หากกล้ามเนื้อหัวใจได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้
การรักษามาตรฐานกรณีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหลายเส้นมีหลายวิธี โดยแพทย์จะประเมินจากลักษณะรอยโรคและสภาพผู้ป่วย เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย ได้แก่ การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและ/หรือใส่ขดลวด (PCI) หรือการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (CABG) หรือที่เรียกว่าการทำบายพาส ในกรณีที่มีการตีบหลายเส้นหรือรุนแรง แต่มีผู้ป่วยหลายรายที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งการผ่าตัดบายพาสและการทำหัตถการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและ/หรือใส่ขดลวด (PCI) มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตกะทันหัน
เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจ Impella System เป็นเครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจเพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตแบบสายสวน เป็นเครื่องปั๊มหัวใจที่เล็กที่สุดในโลก ซึ่งใช้เทคโนโลยีใส่สายสวนผ่านผิวหนังโดยใส่สายผ่านหลอดเลือดแดงต้นขาเข้าไปในหัวใจห้องล่างซ้ายเพื่อสูบฉีดเลือดจากหัวใจห้องล่างซ้ายไปยังหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาและส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เครื่อง Impella มีสายสวนขนาดเล็ก มีปลายสายสวนเป็นแบบม้วนกลม (Pigtail) ปั๊มเลือดเพื่อช่วยพยุงการทำงานของหัวใจชั่วคราว ประกอบด้วย Microaxial Motor ทำหน้าที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อปั๊มเลือดออกจากห้องหัวใจซ้ายไปยังหลอดเลือดแดงใหญ่สามารถปรับความเร็วของปั๊มได้ตั้งแต่ 0 – 46,000 รอบต่อนาที และมี Optical Sensor ทำหน้าที่ตรวจจับแรงดันเอออร์ติก (Aortic Pressure) โดยเครื่องสามารถทำงานได้ทั้งแบบอัตโนมัติ (Automatic) และแบบปรับได้ด้วยตนเอง (Manual) สามารถเพิ่มการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายด้วยอัตราการไหล (Peak Flow) ได้มากถึง 4.3 ลิตรต่อนาที จึงช่วยการทำงานของหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกาย
“Impella system เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับประเทศไทย จึงจำเป็นต้องใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผ่านการฝึกฝนแล้วเท่านั้น”
ทีมแพทย์หัวใจโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้นำเทคโนโลยีเครื่อง Impella มาใช้เพื่อช่วยพยุงการทำงานของหัวใจในระหว่างการทำหัตถการหลอดเลือดหัวใจแบบซับซ้อนในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมากแทนการผ่าตัด ทำให้สามารถทำหัตถการโดยไม่ต้องผ่าตัดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น เพิ่มอัตราการรอดชีวิต ผู้ป่วยปลอดภัยและฟื้นตัวเร็ว คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังการรักษาดีขึ้น ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้การรักษาด้วยเทคโนโลยีนี้
แม้ว่าเครื่อง Impella จะช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ การเกิดลิ่มเลือด เลือดออกที่ตำแหน่งที่ใส่สายสวน เป็นต้น และมีข้อห้ามในการใส่ Impella ที่สำคัญ ได้แก่ ผู้ป่วยมีลิ่มเลือดในหัวใจห้องล่างซ้าย มีภาวะลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบรุนแรงหรือรั่วระดับปานกลางถึงรุนแรง โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบชนิดรุนแรงที่ทำให้ใส่สายสวนไม่ได้ ผู้ป่วยติดเชื้อรุนแรงหรือระบบหายใจล้มเหลว
ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นผู้นำในการให้บริการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบครบวงจรโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย การนำเทคโนโลยี Impella มาใช้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับมาตรฐานการรักษาโรคหัวใจในประเทศไทย โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีระดับโลก และการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่อง Impella เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชน และสร้างระบบสาธารณสุขไทยที่แข็งแรงและทันสมัยยิ่งขึ้นในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง