อินเดียขาดแคลน “แร่หายาก” กระทบผลิต “รถอีวี”
สื่อท้องถิ่นในอินเดีย รายงานว่า ขณะนี้อินเดียกำลังเกิดปัญหาขาดแคลนแม่เหล็กแร่หายาก (Rare Earth Magnets) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตมอเตอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า พบว่าปริมาณสำรองหมดลงไปตั้งแต่ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 และยังไม่มีแหล่งจัดหาวัตถุดิบใหม่ที่สามารถมาทดแทนได้ทันเวลา
ปัญหาขาดแคลนแม่เหล็กแร่หายาก กระทบอย่างมากกับ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและรถสามล้อไฟฟ้าโดยขณะนี้ผู้ผลิตกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤต และมีความเสี่ยงรุนแรงที่ต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว
บริษัทผลิตรถอีวีของอินเดียหลายรายกำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนแม่เหล็กแร่หายากในสต็อก และการเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบทางเลือกจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก และกระทบต่อราคาขายต่อผู้บริโภคโดยตรง
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอีวีในอินเดีย กำลังได้รับผลกระทบความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนภายใต้ 2 โครงการ ของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการไม่ได้รับเงินอุดหนุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ไม่สามารถนำเสนอโปรโมชั่นหรือการให้ส่วนลดในช่วงนี้ เพื่อตอบสนองลูกค้าที่มักมองหาข้อเสนอพิเศษและส่วนลดต่างๆ
สาเหตุที่รัฐบาลอินเดียลังเลในการให้การสนับสนุนทางการเงิน เป็นเพราะมีบางบริษัท ถูกกล่าวหาว่ามีการแอบอ้างเพื่อเรียกรับเงินอุดหนุนจากอย่างไม่ถูกต้อง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายในระยะต่อไป
มีการประเมินว่าหากรัฐบาลอินเดีย ยังไม่ปล่อยเงินสนับสนุนออกมาเพิ่มเติม และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแม่เหล็กแร่หายากได้ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจะประสบปัญหาอย่างมาก
กระทรวงอุตสาหกรรมหนักของอินเดีย ได้เพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานการณ์ ด้วยการออกคำสั่งให้ผู้ผลิตประกาศปริมาณสต๊อกแม่เหล็กที่มีอยู่ ซึ่งภาคอุตสาหกรรมเห็นว่าเป็นการสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่ขาดแคลนวัตถุดิบอย่างหนัก
จากรายงานระบุว่ามีเพียงบริษัท Ola Electric ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่แจ้งกับรัฐบาลว่ายังมีสต๊อกแม่เหล็กเพียงพอ และอยู่ระหว่างการพัฒนามอเตอร์ทางเลือกโดยใช้วัสดุประเภทเฟอร์ไรต์ (ferrite motors) ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า แต่ต้องผ่านกระบวนการทดสอบและรับรองคุณภาพที่อาจใช้เวลาจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่สามารถหาทางออกได้ทันต่อวิกฤตการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นผลทำให้อุตสาหกรรมโดยรวมยังคงมีความเสี่ยงสูงต่อการหยุดชะงัก โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม–ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงยอดขายสูง และผู้บริโภคอินเดีย คาดหวังส่วนลดเพิ่มขึ้น
ขณะที่การนำเข้ามอเตอร์จากต่างประเทศเพื่อทดแทน จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เนื่องจากการนำเข้ามอเตอร์คิดอัตราภาษี 15% ซึ่งสูงกว่าการนำเข้าแม่เหล็กแร่หายากที่มีอัตราภาษีนำเข้า 7.5%
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์อินเดีย ได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงอุตสาหกรรมหนักอินเดีย ขอให้ลดภาษีนำเข้ามอเตอร์ลงเหลือ 7.5% เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของอุตสาหกรรม
สถานการณ์ขณะนี้กำลังสะท้อนถึงความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของอินเดีย และตอกย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนเชิงนโยบายอย่างเร่งด่วนจากภาครัฐ ทั้งในแง่ของเงินอุดหนุน การผ่อนปรนภาษีนำเข้า และการพัฒนาแหล่งวัตถุดิบในประเทศ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดในอนาคตอันใกล้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ญี่ปุ่น" เล็งขยายลงทุนใน "อินเดีย" 10 ล้านล้านเยน หนุนเศรษฐกิจเสรี "อินโด-แปซิฟิก"
- อินเดียทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง Agni-5 สำเร็จ
- สหรัฐฯ ขึ้นภาษี 50% กับสินค้าที่ทำจากเหล็กและอะลูมิเนียม 400 รายการ ชี้อุดช่องโหว่ป้องกันเลี่ยงภาษี
- จีน-อินเดีย จับมือฟื้นสัมพันธ์ทวิภาคี หนุนการค้า ลงทุน เปิดเที่ยวบินตรงอีกครั้ง
- รัฐบาล เชิญพุทธศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ “อุรังคธาตุ”