ทรัมป์เล็งดึงงบ 6.5 หมื่นล้านบาท จาก CHIPS Act 'หนุนขุดแร่หายาก' ลดพึ่งจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลทรัมป์ กำลังพิจารณานำงบประมาณใหม่อย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 65,000 ล้านบาท จาก “กฎหมาย CHIPS Act” เพื่อนำไปใช้สนับสนุนโครงการเกี่ยวกับการขุด “แร่ธาตุสำคัญ” ตามแหล่งข่าว 2 รายที่คุ้นเคยกับเรื่องดังกล่าวเปิดเผยต่อรอยเตอร์ส
ตามแผนดังกล่าว รัฐบาลจะดึงงบจากกองทุนที่สภาคองเกรสจัดสรรไว้แล้ว เพื่อใช้ในการวิจัยเซมิคอนดักเตอร์และการก่อสร้างโรงงานผลิตชิป โดยไม่ต้องเสนอของบเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นความพยายาม “ลดการพึ่งพาจีน” ในการจัดหาแร่ธาตุสำคัญ ที่ถูกใช้กันอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และกลาโหมของสหรัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดูแล “กฎหมาย CHIPS Act” วงเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 มีเป้าหมายดึงการผลิตชิปออกจากเอเชีย และส่งเสริมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในสหรัฐให้มากขึ้น
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขกฎหมาย CHIPS Act กฎหมายที่เขาเคยเรียกว่าเป็น “สิ่งที่แย่มาก ๆ” และเป็นเสมือน “การแจกเงินให้บริษัทต่าง ๆ” โดยส่วนใหญ่เป็นเงินอุดหนุนแก่ผู้ผลิตชิป
ในการจะนำเงินบางส่วนจาก CHIPS Act ไปใช้กับโครงการทำเหมือง ถือว่าสอดคล้องกับ “เจตนารมณ์บางส่วน” ของ CHIPS Act เนื่องจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ จำเป็นต้องใช้แร่ธาตุสำคัญ เช่น เจอร์เมเนียม, แกลเลียม และแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จีนเข้มงวดการควบคุมตลาดมากขึ้น
ในการริเริ่มนี้ “บริษัทเหมืองแร่” เองอาจได้ประโยชน์ รวมถึง “บริษัทด้านการแปรรูปและการรีไซเคิล” ด้วย ทั้งนี้ แร่ธาตุส่วนใหญ่ที่รัฐบาลสหรัฐจัดให้ อยู่ในกลุ่ม “แร่ธาตุสำคัญ” ที่ยังไม่ได้ถูกแปรรูปภายในประเทศ
ยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลทรัมป์ตั้งใจจะใช้เงินดังกล่าวในรูปแบบ “เงินอุดหนุน” หรือ “การเข้าถือหุ้น” ในบริษัทเหมืองแร่ แต่แหล่งข่าวรายแรกระบุว่า ลัทนิคตั้งเป้าที่จะ “ผลักดันให้งบ 2,000 ล้านดอลลาร์ถูกนำออกมาใช้โดยเร็วที่สุด” พร้อมเสริมว่า รัฐบาลยังมีแผนจะมองหางบก้อนอื่นมาจัดสรรใหม่ในอนาคตอันใกล้
ด้านอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเปิดเผยว่า รัฐบาลไบเดนเคยพิจารณาการใช้เงินอุดหนุนจากกฎหมาย CHIPS Act สำหรับอุตสาหกรรมแร่หายาก แต่สุดท้ายตัดสินใจว่า “ไม่คุ้มค่า” เพราะต้องยกเว้นกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมหลายข้อ และเหมาะสมกว่าที่จะให้กระทรวงพลังงานเป็นผู้รับผิดชอบ
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ได้เร่งขยายการผลิตแร่ธาตุสำคัญภายในประเทศ โดยลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อสนับสนุนการทำเหมืองใต้ทะเลลึกและโครงการเหมืองในประเทศ
เมื่อวันอังคาร ทรัมป์ยังได้พบกับซีอีโอของบริษัทเหมืองยักษ์ใหญ่ Rio Tinto และ BHP ที่ทำเนียบขาว แม้จะอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้นำยุโรปเกี่ยวกับการบุกยูเครนของรัสเซีย การพบปะดังกล่าวถูกมองว่า เป็นการตอกย้ำการสนับสนุนของเขาต่ออุตสาหกรรมเหมืองของสหรัฐ
อ้างอิง: reuters