ค้าปลีกภูธรแข่งดุ “ตั้งงี่สุน” แนะแบรนด์ท้องถิ่นเร่งปรับตัว ท้าชนตลาดยุคใหม่
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง รายใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ธุรกิจค้าปลีกแข่งขันกันดุเดือดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาพของร้านค้าปลีกทั้งแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ขยายสาขากระจายไปทั่วทุกทิศในต่างจังหวัด ส่งผลกระทบต่อร้านค้าท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีอย่างจำกัด
“ตอนนี้ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่รุกตลาดและขยายสาขาอย่างต่อเนื่องจะมีความได้เปรียบ ร้านค้าปลีกท้องถิ่น โดยเฉพาะร้านโชห่วยขนาดเล็ก ทั้งในด้านราคาสินค้า ความหลากหลาย และโปรโมชันส่งเสริมการขาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อส่วนแบ่งตลาดของร้านค้าเดิม ขณะเดียวกันกลับส่งผลดีต่อผู้บริโภค ทำให้มีทางเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น เกิดการแข่งขันด้านราคา และยกระดับคุณภาพการให้บริการ เกิดการให้ความสำคัญในด้าน Customer is the King มากขึ้น”
นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของปี 2568 ยังทำให้ทั้งซัพพลายเออร์และร้านค้าท้องถิ่นต้องเร่งปรับตัวอย่างหนัก ทุกฝ่ายระมัดระวังในการบริหารจัดการสต็อกสินค้าและกระแสเงินสดมากขึ้น เน้นการขายตามความเป็นจริงและลดการสต็อกสินค้าที่ไม่จำเป็นลง
รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อให้มีความสามารถแข่งขันด้วยรูปแบบเดียวกับร้านค้าขนาดใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแตกต่าง หาจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP หรือผลิตภัณฑ์จาก SME ในท้องถิ่น ซึ่งร้านค้าขนาดใหญ่อาจไม่สามารถนำมาวางขายได้
การใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบ AI หรือการวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data) เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและจัดโปรโมชันให้ตรงจุด ทั้งเสริมสร้างเครือข่ายร่วมกับชุมชน เปลี่ยนร้านค้าให้เป็นมากกว่าที่ขายของ มีสินค้าชุมชนที่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตในท้องถิ่นด้วย รวมถึงความเท่าเทียมของกฏหมายค้าปลีกที่ภาครัฐจะต้องสนับสนุนให้ร้านค้าท้องถิ่นแข่งกับรายใหญ่ได้ เช่น การกำหนดเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่น่ากังวลที่สุดคือเทรนด์การซื้อสินค้าที่มักเปลี่ยนแปลไปอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศไทย เมื่ออัตราการเกิดของเด็กลดลงและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ประเมินไม่ได้ว่าอีก 10 ปีในอนาคต ร้านค้าปลีกจะแข่งขันอย่างไร จะขายสินค้าให้ใคร และขายอะไร เมื่อจำนวนผู้บริโภคในพื้นที่ลดลงแต่จำนวนร้านค้ากลับเพิ่มขึ้น