"ซูเลียน" โชว์โรงงานปีนัง ดันยอดขายครึ่งแรกพุ่ง รุกดิจิทัล-อาเซียนเต็มสูบ
บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำสถานะผู้นำในธุรกิจขายตรง ด้วยการจัดทริปนำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงงานผลิต Zhulian ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของกลุ่มบริษัทซูเลียนในระดับภูมิภาคอาเซียน การเยี่ยมชมครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน และความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสู่มือผู้บริโภคทั่วภูมิภาค พร้อมกันนี้ ซูเลียนยังได้ประกาศแผนการขยายเครือข่ายธุรกิจสู่ทั่วอาเซียน และสนับสนุนให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้อย่างแท้จริง
ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 28 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ความสำเร็จของซูเลียนเกิดจากการยึดมั่นในหลักการความจริงใจ การมอบโอกาส และการให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ “ซูเลียนไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ขายตรง แต่คือแพลตฟอร์มที่ช่วยเปิดโอกาสในการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ครอบคลุม 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อบ้านและที่อยู่อาศัย ผลิตภัณฑ์เพื่อร่างกาย และผลิตภัณฑ์ประเภทเข็มขัด”
โรงงาน Zhulian หัวใจของการควบคุมคุณภาพระดับสากล
ดร.ปิยะวัฒน์ เน้นย้ำว่า จุดแข็งสำคัญของซูเลียนคือการมี โรงงานผลิตเป็นของตนเอง ซึ่งทำให้สามารถควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต พัฒนาสูตรเฉพาะ และรักษาความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง
โรงงาน Zhulian ในเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของระบบการผลิต ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อการผลิตโดยเฉพาะ สามารถรองรับการผลิตสินค้าหลายล้านหน่วยต่อปี โรงงานแห่งนี้ใช้ระบบอัตโนมัติในการควบคุมคุณภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และระบบตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวดตามมาตรฐานสากล อาทิ GMP (Good Manufacturing Practice), HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points), ISO9001, ISO22000 และ HALAL ซึ่งเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
ภายใต้แนวคิด “สร้างอาชีพ สร้างชีวิต” ซูเลียนให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ที่ต้องการมีรายได้เสริมหรือเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง โดยจัดให้มีระบบฝึกอบรมและการสนับสนุนแบบครบวงจร ทั้งในด้านการขาย การจัดการ และการพัฒนาศักยภาพ เพื่อสร้างเครือข่ายนักธุรกิจที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ดร.ปิยะวัฒน์ ยังให้ข้อมูลถึงกลยุทธ์สำคัญในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยซูเลียนได้พัฒนากลยุทธ์ O2O (Offline to Online) เพื่อเชื่อมโยงช่องทางการขายแบบดั้งเดิมเข้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม พร้อมทั้งยกระดับระบบสนับสนุนนักธุรกิจผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันใหม่ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การสั่งซื้อ การจัดส่ง ไปจนถึงการขยายเครือข่ายออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพ
แผน 5 ปี พัฒนาผลิตภัณฑ์-เทคโนโลยี-ขยายตลาดอาเซียน
สำหรับแผนการเติบโตในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซูเลียนมุ่งเน้น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การลงทุนด้านเทคโนโลยี และการขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน
ความสำเร็จของซูเลียนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากผลิตภัณฑ์เรือธงที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น “คอฟฟี่พลัส” กาแฟผสมโสมที่ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพ, “บียางค์” เครื่องดื่มธัญพืชผสมผักผลไม้ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ และ “ยาสีฟันสไมล์ ออน” ซึ่งครองใจผู้บริโภคด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
นอกเหนือจากคุณภาพของสินค้า ซูเลียนยังเดินหน้ายกระดับกลยุทธ์การตลาด ด้วยการ เพิ่มอัตราการจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักธุรกิจจาก 68% เป็น 81% ของมูลค่า BV ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้เฉลี่ยของนักธุรกิจสูงถึง 20–30% ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเติบโตอย่างชัดเจน
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ซูเลียนสามารถสร้าง ยอดขายเติบโตขึ้นถึง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของเครือข่ายผู้บริโภค และการขับเคลื่อนของนักธุรกิจซูเลียนในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนที่ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก บริษัทจึงมุ่งมั่นในการสนับสนุนการเติบโตในระดับภูมิภาค ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพของเครือข่ายนักธุรกิจในแต่ละพื้นที่
ดร.ปิยะวัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ซูเลียนยังคงเดินหน้าทำกิจกรรม CSR อย่างต่อเนื่องร่วมกับมูลนิธิต่างๆ และล่าสุดได้ยกระดับแนวคิด CSR ด้วยการเปิดตัวตำแหน่ง “MRCD” (Master Royal Crown Director) โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้จะมีสิทธิ์ในการบริจาคเงินจำนวน 3,250,000 บาท ให้กับมูลนิธิหรือองค์กรสาธารณกุศลที่ตนเลือก ถือเป็นการผสานความสำเร็จทางธุรกิจเข้ากับการตอบแทนสังคมอย่างแท้จริง
ตลอด 28 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซูเลียนได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความยั่งยืนทางธุรกิจไม่ได้มาจากยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสามารถ “มอบความหมาย” ให้กับชีวิตของผู้คนได้อย่างแท้จริง แม้สังคมบางส่วนจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง แต่ซูเลียนได้แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใส ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ นักธุรกิจที่ใช้จริงและบอกต่อจริง และระบบที่สนับสนุนให้ทุกคนมีโอกาสเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองได้อย่างเท่าเทียม
"เราจะไม่หยุดเพียงแค่ความสำเร็จในอดีต แต่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และระบบสนับสนุนที่ทันสมัย พร้อมยืนเคียงข้างนักธุรกิจซูเลียนทุกคน เพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน