ลงทุน “น้ำมัน” อาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่ถ้าเข้าใจเกม ก็เป็นโอกาสที่รออยู่
แม้การลงทุนใน “น้ำมัน” หรือที่ถูกเรียกกันในหมู่นักลงทุนว่า “ทองคำดำ” จะไม่ได้เป็นที่นิยมในวงกว้างเท่า "หุ้น" หรือ "ทองคำ" แต่ก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกผันผวน หรือสถานการณ์โลกตึงเครียด เพราะราคาน้ำมันมักจะตอบสนองต่อข่าวสารและดีมานด์ซัพพลายได้อย่างรวดเร็ว
โดยการลงทุนในน้ำมันเพื่อสร้างผลตอบแทน ส่วนใหญ่ดำเนินการผ่าน “สัญญาซื้อขายล่วงหน้า” (Futures Contracts) ที่อ้างอิงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยผู้ลงทุนจะเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย ซึ่งแม้มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความซับซ้อนและเสี่ยงมากกว่าการลงทุนทั่วไป
ดังนั้น การลงทุนในน้ำมัน อาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่หากผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงสูงได้ และมีความเข้าใจลักษณะตลาด การลงทุนในน้ำมันก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงตามระดับความเสี่ยง
อยากลงทุน “น้ำมัน” ต้องทำอย่างไร?
สำหรับนักลงทุนสายเสี่ยงสูงที่อยากลงทุนในน้ำมัน ปัจจุบันสามารถเลือกลงทุนได้หลายรูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีต่างประเทศเสมอไป ตัวอย่างวิธีลงทุน ได้แก่
ลงทุนผ่านกองทุนรวม
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่ง เช่น บลจ.กรุงไทย และ บลจ.กสิกรไทย มีการออกกองทุนรวมที่อ้างอิงราคาน้ำมันดิบ (WTI หรือ Brent) เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนได้สะดวกซื้อขายน้ำมันผ่านบัญชี TFEX
สำหรับผู้ที่มีความเข้าใจตลาด Futures อย่างดี สามารถลงทุนในน้ำมันดิบผ่านตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลิตภัณฑ์อย่าง Oil Futures ให้เลือกลงทุน
- ลงทุนผ่าน ETF ต่างประเทศ
สำหรับสาย ETF (Exchange-Traded Fund) ก็สามารถเลือกลงทุนวิธีนี้ได้เช่นกัน โดยเลือกลงทุนใน ETF ที่อ้างอิงราคาน้ำมัน เช่น USO (United States Oil Fund) หรือ BNO (United States Brent Oil Fund) ซึ่งต้องลงทุนผ่านบัญชีหุ้นต่างประเทศ โดยสามารถเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ในไทยที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
- เลือกหุ้นน้ำมันหรือหุ้นกลุ่มพลังงาน
อีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักลงทุนสายหุ้น คือการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน เช่น PTT, PTTEP, TOP, หรือ SPRC ซึ่งราคาหุ้นเหล่านี้มักเคลื่อนไหวสอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุนในน้ำมัน
ราคาน้ำมันผันผวนสูงมาก จากข่าวเศรษฐกิจและการเมืองโลก
ตลาด Futures มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเกินเงินต้น
ต้องบริหารความเสี่ยงด้วยการตั้ง Stop Loss
หากลงทุนผ่านกองทุน ควรอ่าน Fund Fact Sheet ก่อน
อย่าลงทุนเพราะกระแส ต้องเข้าใจกลไกจริง ๆ
ปัจจัยสำคัญที่กระทบราคาน้ำมัน
นักลงทุนควรติดตามปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันอยู่เสมอ เพราะราคาน้ำมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ระหว่างประเทศด้วย ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องจับตาปัจจัยหลักเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ
ปริมาณผลิตของกลุ่ม OPEC+
สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ (รายงานโดย EIA)
ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง / ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์
ดีมานด์จากประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน อินเดีย เป็นต้น
เช็กให้รู้! คุณเหมาะกับการลงทุนน้ำมันหรือไม่?
หากอยากแน่ใจว่าคุณเหมาะที่จะลงทุนในน้ำมันหรือไม่ ลองเริ่มจากการสำรวจตัวเองผ่านแบบทดสอบเบืองต้นนี้
รับความเสี่ยงสูงได้
เข้าใจตลาด Futures หรือ Commodity
มีเวลาเกาะติดสถานการณ์โลก
มีเงินเย็น (ไม่เดือดร้อนหากขาดทุน)
ผ่านการประเมินความเสี่ยงจากบริษัทหลักทรัพย์แล้ว
ทั้งนี้ หากมั่นใจที่จะลงทุนใน “น้ำมัน”แล้ว สิ่งสำคัญที่ยังต้องทำ เช่นเดียวกับการลงทุนในรูปแบบอื่น คือการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งปัจจัยเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้การลงทุนในน้ำมันอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่สำหรับนักลงทุนที่เข้าใจตลาด รู้จักวิเคราะห์ข่าวสาร และจัดพอร์ตอย่างมีวินัยอยู่เสมอ นี่อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยกระจายความเสี่ยง และอาจสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีในช่วงเวลาที่โลกยังเปราะบางเช่นทุกวันนี้ได้