จับตาราคาที่อยู่อาศัย 68 คนซื้อเน้นย่อมเยา คนเช่าคุมงบเข้ม
แม้เศรษฐกิจไทยปี 2568 ยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายในและต่างประเทศ ทั้งดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า แต่ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยสะท้อนว่าผู้บริโภคไทยได้ปรับตัวรับมือด้วยการ “เลือกซื้อและเช่าอย่างมีวินัย” เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพทางการเงินจริง (Real Demand)
ข้อมูลจาก ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พบว่า ครึ่งปีแรกนี้ กลุ่มผู้ซื้อให้ความนิยมสูงสุดกับที่อยู่อาศัยราคาประมาณ 1-2 ล้านบาท ตามมาด้วย 5 แสน-1 ล้านบาท และ 1.5-3 ล้านบาท โดยที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและทาวน์โฮมในโซนรอบนอกเมืองใกล้ระบบขนส่งสาธารณะได้รับความสนใจต่อเนื่อง ขนาด 2 ห้องนอนครองแชมป์การค้นหา รองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยหลากหลาย
ในขณะเดียวกัน ตลาดเช่าจะยังขยายตัวจากแรงหนุนของกลุ่มคนทำงานต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและทำงานในไทย โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจและย่านธุรกิจใหม่ ซึ่งจะเพิ่มดีมานด์ค่าเช่าในระดับกลางถึงสูง ขณะที่กลุ่มผู้เช่าไทยจะยังคงควบคุมงบเช่าให้เหมาะกับรายได้และค่าครองชีพ
ทั้งนี้ พบว่ากว่า 88% ของผู้เช่าต้องการที่อยู่อาศัยแบบตกแต่งครบพร้อมอยู่ (Fully Furnished) เพื่อลดความยุ่งยากในการย้ายเข้าและประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเฟอร์นิเจอร์ ขณะที่ช่วงค่าเช่าที่มีการค้นหามากที่สุดคือ 10,000-15,000 บาท/เดือน รองลงมาคือ 6,000-10,000 บาท/เดือน และ 10,000-20,000 บาท/เดือน ซึ่งถือเป็นระดับกลางที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตและความสะดวกสบาย เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอสังหาฯ อาจจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์รับพฤติกรรมผู้บริโภคดังกล่าว ทั้งในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ราคาและขนาด รวมถึงเพิ่มความพร้อมเข้าอยู่ทันทีเพื่อตอบสนองตลาดเช่า การแข่งขันจะเน้นที่ความคุ้มค่าต่อราคา
ตลาดครึ่งปีหลังจึงไม่ใช่เพียงการแข่งขันด้านทำเล แต่เป็นการแข่งกันทำความเข้าใจผู้บริโภคและปรับสินค้าให้สอดคล้องกับข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ พร้อมสร้างความยืดหยุ่นด้านการเงิน เช่น แผนผ่อนดาวน์ระยะยาว และข้อเสนอพิเศษเพื่อปิดการขายอย่างรวดเร็ว